แฟลตดินแดง พ่อติดโควิด แต่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วย และ ลูกเล็กติดโควิด รอการรักษา เหลือหลายวัน จนติดคนในครอบครัวเป็น 5 คน สุดท้ายหายากินเอง
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในตอนนี้เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากและเป็นประเด็นให้พูดถึงคือการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่และการเตียงเพื่อเข้ารับการรักษา อีกทั้งยังมีในกลุ่มชุมชนที่การดูแลยังเข้าไม่ถึง ทำไมต้องรอการรับเข้ารักษาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกรณีเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษา

เมื่อวันที่ 25 เมษายน มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ของความช่วยเหลือถึง 2 ครอบครัว ซึ่งรอรับการช่วยเหลืออยู่ ซึ่งเจ้าของโพสต์ทั้งสอง อาศัยอยู่ที่แฟลตดินแดง โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายแรกเป็นผู้ชาย ได้โพสต์ว่า
เอาพ่อออกไป และ ช่วยเด็กด้วย ! ตอนนี้พ่อป่วยหนักมากนอนรอความช่วยเหลือออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ ติดโควิทชัดเจนแต่ที่หนักกว่านั้นคือ เด็ก 7 เดือน ยังต้องอาศัยอยู่ น้องเริ่มมีอาการไอหนักแล้ว คาดว่าจะติด ช่วยแชร์ เพื่อหาหน่วยงาน พาน้องออกไปจากที่นี่ก่อนก็ยังดี ช่วยกันเถิดครับ แฟลต ช. 1 ดินแดง แฟลตติดกระทรวงแรงงาน ลงชื่อและเบอร์โทร พร้อมระบุว่า 1 แชร์ของคุณ ช่วยน้องได้ ช่วยคนได้
โดยอีกโพสต์ เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งเป็นผู้หญิงโพสต์เมื่อวันที่ 22 เมษายน “ถึงใครที่ซื้อของกับน้ำ หรือน้ำซื้อของกับใคร ขอนัดจ่าย, ส่งวันที่5 เดือนหน้าหน้าเลยนะคะเพราะโทรศัพท์ของน้ำพังออกไปโอนให้ก็ไม่ได้ เนื่องด้วยจากมีผู้ติดโควิด2ท่านอาศัยอยู่ข้างบ้าน และยูจินก็ชอบไปเล่นกับเด็กในบ้านหลังนั้น ตอนนี้ น้ำและยูจินได้ทำการตรวจโควิดเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่20 ที่ผ่านมา ผลทดสอบในรอบแรกของน้ำเป็นลบ ผลของน้องยูจินยังไม่ออก และตอนนี้ได้ทำการกักตัวอยู่ที่ห้องตามมารตการของกระทรวงสาธารณสุข แจ้งเพื่อทราบนะคะ”
จากนั้นเธอได้โพสต์อีกครั้ง ในวันที่ 23 เมษายน “วันนี้ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งผลการตรวจโควิดของน้องยูจินแล้วนะคะ ผลของน้องเป็นบวกค่ะ คือติดเชื้อนั้นแหละ ตอนนี้ก็คือรอรถมารับซึ่งแม่ก็ได้แต่ภาวนาให้มีเตียงว่างเร็วๆ อยากให้น้องถึงมือหมอไวๆ ตอนนี้ทำได้แค่รออย่างเดียวเท่านั้น ส่วนอาการของน้องคือไอแน่นๆไม่มีเสมหะ ยังทานข้าว และยังร่าเริงเป็นปกติ และก็ฝากไว้เป็นอุธาหรณ์สำหรับหลายๆคนนะคะ รักหรือเอ็นดูเด็กก็ให้ดูแค่ตาชมแค่ปากนะคะ ถ้าตัวเองยังไม่ระวังตัวไม่มากพอ นอกจากจะเสี่ยงบุตรหลานของท่านแล้ว ยังมีผลต่อลูกคนอื่นอีกแล้วพอเป็นอะไรมาก็อย่าเงียบไม่บอกนะคะ มีอะไรบอหให้รอบข้างระวังตัวค่ะ นี่ยังโกรธอยู่เลยที่ปล่อยให้เรารู้เองว่าบ้านคุณมีคนติดเชื้อ เราถึงรีบไปตรวจ ถ้าเกิดวันนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่ไม่มาพ่นยาที่บ้านท่าน เราก็ไม่สามารถรู้เลยว่าบ้านท่านมีผู้ป่วยถึง2ราย สำหรับใครที่พบเจอหรือเล่นกับน้องยูจินภายน14วันที่ผ่านมาให้ท่านไปตรวจและกักตัว แม่ต้องขอโทษจริงๆนะคะ ไม่มีใครอยากให้เกิด”
ในวันที่ 24 เมษายน เธอยังคงโพสต์อีก หลายโพสต์และยังตงเป็นเรื่องราวของลูก อีกทั้งยังบอกอีกว่าตอนนี้กลายเป็นความครอบครัวของเธอติดเชื้อโควิดแล้วเป็น 5 คน
โพสต์ที่ 1
“ระหว่างที่รอเตียง จากติดแค่ยูจินก็จะกลายเป็นติดกันทั้งบ้าน จากผู้ป่วย1คนกลายเป็น5 ก็คิดเอาแล้วกัน ว่ายอดผู้ป่วยพุ่งไม่หยุด เป็นเพราะเราระวังไม่มากพอ หรือเป็นเพราะระบบการจัดหา การรับมือ มันห่วยแตกกันแน่ #ไม่ได้กล่าวโทษบุคลากรทางการแพทย์นะคะด่ารัฐบาล”
โพสต์ที่ 2
“1668 คือสายไม่ว่างโทรไม่ติด สัญญาณขาดๆหายๆมาก เฮ้ออ”
โพสต์ที่ 3
“อัพเดตล่าสุดนะคะ ทางเจ้าหน้าที่โทรมาสอบถามว่าพร้อมไปรักษาหรือยัง เป็นโรงบาลสนามแต่ยังไม่ทราบว่าที่ไหน แม่ตอบตกลงแล้ว คาดว่าจะมีรถมารับไม่เกินวันนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆนะคะ”
และล่าสุดในวันที่ 25 เมษายน เธอได้โพสต์อีกว่า “เกิดมาผิดเวลาเนาะลูก เกิดมาก็เจอโรคอะไรก็ไม่รู้แถมซวยไปติดอีก เฮ้อออ นอนไม่หลับ” พร้อมรูปภาพลูกที่ยังแบเบาะ
โพสต์ต่อมา
“ก็พึ่งเข้าใจคำว่านอนรอความตายจริงก็ตอนนี้แหละ” ระบุว่า “ยังไม่มีรถโรงบาลมารับนะคะ ต้องรอไปก่อน แม่พาน้องไปโรงบาลเด็กมาก็ยังไม่มีเตียง เตียงว่างวันอังคาร รอค่ะ รอต่อไป แม่หารถมาตั้งแต่เช้าแล้วไมเกรนขึ้นละจ้า ที่แน่นอนที่สุดก็คือวันอังคารโรงบาลเด็ก ขอเพิ่มเติมที่อยู่นะคะเผื่อมีท่านไหนอยากแชร์ 6002/102 แฟตลช.2 ชั้น3 ประชาสงค์เคราะห์ซอย1 ถนนประชาสงค์เคราะห์ เขตดินแดง แขวงดินแดง กรุงเทพฯ ค่ะ เบอร์โทรติดต่อ xxxxxxx ค่ะ ขอบพระคุณมากๆนะคะ”
และโพสต์สุดท้ายระบุว่า “หาซื้อยามารักษาตัวเองแล้วนะ ไม่ต้องห่วง” โดยทุดโพสต์ที่เธอลงเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของเธอนั้น มีคนเข้ามาคอนเม้นท์และให้กำลังใจมากมาย เราต้องติดตามต่อไปว่าทางการจะช่วยเหลือสองคอรบครัวนี้อย่างไร และ เมื่อไร ทาง Bright Today ขอเป็นกำลังใจให้สองครอบครัว และติดต่อความคืบหน้าของเรื่องนี้ต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารต่าง และ อัปเดทสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV