24 มิย. 63 ราชกิจจานุเบกษา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานครอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 8 วรรคสอง (1) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 334 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ดังต่อไปนี้
(1) แปลงที่ 1 (ลำรางสาธารณะ) ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 31 ไร่ 1 งาน 89 ตารางวา
(2) แปลงที่ 2 (ลำรางสาธารณะ) ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 3 งาน 20 ตารางวา และ
(3) แปลงที่ 3 (ลำรางสาธารณะ) ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 3 งาน 51 ตารางวา
ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากที่ดินสาธารณประโยชน์ จำนวนสามแปลง ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณสมบัติ ของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นลำรางสาธารณะ ได้แก่ แปลงที่ ๑ ลำรางสาธารณะ เนื้อที่ประมาณ ๓๑ ไร่ ๑ งาน ๘๙ ตารางวา แปลงที่ ๒ ลำรางสาธารณะ เนื้อที่ประมาณ ๓ งาน ๒๐ ตารางวา และแปลงที่ ๓ ลำรางสาธารณะ เนื้อที่ประมาณ ๓ งาน ๕๑ ตารางวา
ปัจจุบันพลเมือง เลิกใช้ประโยชน์ร่วมกันในที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวแล้ว สมควรถอนสภาพที่ดินทั้งสามแปลงจากการเป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เพื่อมอบหมายให้กองทัพบกนำไปใช้ในการเสริมสร้างหน่วย ให้กับหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
