Home » ไบรท์นิวส์ » ผู้สมัคร ส.ส.พท.แถลงขอความเป็นธรรมอีกรอบ เผยเดินหน้าแจ้งความคนกลั่นแกล้ง
สุรพล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 เพื่อไทย เปิดแถลงข่าวขอความเป็นธรรม หลังถูก กกต.แจกใบส้ม ยืนยันถูกจัดฉากกลั่นแกล้ง เดินหน้าร้องศาลปกครองสูงสุดคุ้มครอง สั่ง กกต.คืนสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.
บ่ายวันนี้ ( 8 พฤษภาคม) ที่ร้านอาหารเพชรดอยงาม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 8 จ.เชียงใหม่ ซึ่งถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งเพิกถอนสิทธิไว้เป็นการชั่วคราว(1ปี) หรือ แจกใบส้ม เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้ง ในฐานะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการที่ กกต. แจกใบส้ม เพราะเข้าข่ายผิดพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา73 (2) ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิวัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด
นายสุรพล ระบุว่า การแถลงข่าวในวันนี้ขอใช้สิทธิในฐานะผู้ได้รับผลกระทบตาม รธน.มาตรา 25 และในฐานะเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนเขต 8 ทั้ง 4 อำเภอ คือ สันป่าตอง จอมทอง ดอยหล่อ และแม่วาง ที่ลงคะแนนให้ตนเองกว่า 52,165 เสียง จึงแถลงขอความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีข้อกังขาไม่น้อยไปกว่าตนเองว่า เหตุใดในการประกาศรับรอง ส.ส.ของ กกต.เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา การเลือกตั้งทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ มีเพียงเขต 8 จ.เชียงใหม่เขตเดียวที่ทำผิด พรป.เลือกตั้ง
นายสุรพล ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ขณะตนเองเดินทางไปถวายปัจจัยจำนวน 2,000 บาท ให้ครูบาสามฐานวโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยพระเจ้า ที่บ้านกู่ฮ้อ หมู่ที่ 11 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นการถวายปัจจัยส่วนตัวเพราะครูบาสามฐานวโร เป็นพระที่ตนเองเคารพนับถือ จากนั้นครูบาสามฐานวโร ก็ได้ทำเทียนสะเดาะห์เคราะห์มอบให้ แต่กลับมีบุคคลบางกลุ่มจัดฉากถ่ายภาพตนเองและส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ กกต.
หลัง กกต.จ.เชียงใหม่ เรียกตนไปให้ปากคำ ก็ได้นำพยานทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปให้ปากคำกับ กกต.พร้อมกัน ซึ่ง กกต.ก็ระบุว่า การทำบุญตามธรรมเนียมประเพณีปกติ และถวายปัจจัยให้พระสงฆ์เป็นการส่วนตัวไม่ผิด พรป.เลือดตั้ง และไม่เข้าข่ายตามมาตรา73 (2) แต่ กกต.ติดใจและขอทราบเพียงประเด็นเดียวว่า หลังการถวายปัจจัย ผู้ใหญ่บ้านได้ส่งไมค์ให้พูดกับชาวบ้านอย่างไร ตนได้ยืนยันไปว่า เป็นเพียงการพูดทักทายและพูดถึงการทำบุญกับคณะกรรมวัดและชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เพียง 10 คนเท่านั้น ไม่ได้มีการพูดปราศัยหาเสียงแต่อย่างใด
นายสุรพล กล่าวว่า หลังให้ปากคำกับ กกต.เชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะรวบรวมข้อมูลเสนอให้ กกต.กลางพิจารณาในวันที่ 22 เมษายน แต่ปรากฎว่าวันที่ 23 เมษายน กกต.กลางกลับแจกใบส้มให้ตนเอง ซึ่งตนเองมองว่ามีความพยายามเร่งรัดรวบรัดมาก จึงได้ยื่นเคำร้องไปยังศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้มีคำสั่งให้ กกต.กลางระงับการแจกใบส้มกับตนเอง โดยคาดหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากศาลปกครองสูงสุดก่อนจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้
ขณะเดียวกันก็ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.จอมทอง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่จัดฉากเพื่อกลั่นแกล้งตนเอง คือ นายสุบิน ทองก้อนสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านกู่ฮ้อสามัคคี และนายเกรียงศักดิ์ ยะโน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกู่ฮ้อสามัคคี ในข้อหา”ร่วมกันกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริต”
นายสุรพล อ้างว่า บุคคลที่ถูกแจ้งความทั้ง 2 คนได้ร่วมกันจัดฉากกลั่นแกล้งตนเอง โดยนำซองถวายปัจจัยส่วนตัวที่ถวายให้ครูบาสามฐานวโร ไปเขียนชื่อ”สุรพล 2,000 บาท” แล้วนำไปวางรวมไว้กับซองปัจจัยของชาวบ้าน จากนั้นได้บันทึกภาพแล้วส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง กกต. ซึ่งทั้ง 2 ก็รับสารภาพกับตนเองแล้ว
“ผมเป็น ส.ส.มา 8 สมัยและทุกสมัยได้รับคะแนนเสียงบริสุทธิ์จากพี่น้องประชาชน โดยไม่เคยมีพฤติกรรมการซื้อเสียง ยืนยันสามารถตรวจสอบได้ เหตุการณ์ครั้งนี้จึงต้องการเรียกร้องและขอความเป็นธรรม โดยหวังว่า กกต.จะทบทวนมติดังกล่าวใหม่ เพื่อคืนสิทธิ์ ส.ส.ให้ตนเอง เพราะตั้งแต่ถูก กกต.ตัดสิทธิ์และแจกใบส้ม รวมทั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขต 8 ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงจาก กกต.อย่างเป็นทางการ ทั้งที่ตนเองเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง”นายสุรพล กล่าว