โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ เตรียมตั้งทนายสู้กลับ พร้อมยืนยันฝ่ายชายไม่ได้เมาตอยเซ็นสัญญา อีกทั้งยังเผยว่าไม่ได้รับทั้งเงินและบ้านตามที่บอกไว้ ?!
กลายเป็นประเด็นดรามาครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงไปแล้ว เมื่อ มีเรียน สุเดชา แฟนสาวคนปัจจุบันของพิธีกรชื่อดังอย่าง พีเค ปิยะวัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความสุดเดือด พร้อมปาหลักฐานทางการเงิน พบความผิดปกติของบัญชีของฝ่ายชาย เรียกได้ว่ากระตุกต่อมของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลายคนต่างจับโยงว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับนางแบบสาว โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ อดีตภรรยาของ พีเค ปิยะวัฒน์ หรือเปล่า ?

โยเกิร์ต ตั้งทนายเตรียมสู้กลับอีกฝ่าย!
หลังจากที่ประเด็นนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทางด้านบรรดาชาวเน็ตต่างก็เม้าท์มอยสนั่นโลกโซเชียล รวมไปถึงเพจดังอย่าง อีป้าข้างบ้าน ก็ได้เก็บเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง โดย อีป้าข้างบ้าน ได้เล่าว่า “ช่วงที่เกิดเรื่องใหม่ ๆ ก่อนที่ พี่เค-โยเกิร์ต จะหย่ากัน ทั้งคู่มีการตกลงและฝ่ายชายได้เซ็นสัญญาว่าจะยกบ้านให้ 1 หลัง พร้อมเงินค่าเลี้ยงดูเดือนละ 1 แสน ทั้งยังนำสัญญาดังกล่าวนี้แนบติดเอาไว้กับใบหย่าด้วย แต่ครอบครัวฝ่ายชาย รวมถึง มีเรียน หวานใจคนใหม่รู้สึกถึงความไม่แฟร์ เพราะหลังหย่า พีเค งานหด แต่กลับกันฝั่งของอดีตภรรยามีงานเข้ามาฉ่ำๆ จึงไม่สมเหตุสมผลที่จะต้องให้ฝ่ายชายจ่ายค่าอะไรให้
จากความรู้สึกไม่แฟร์ดังกล่าวก็เริ่มมีการเห็นความผิดปกติของบัญชี หลังจากที่ มีเรียน แฟนใหม่ พีเค เข้ามาจัดการและตรวจสอบการเดินบัญชีของฝ่ายชาย จนได้พบว่าเงินหายไป 10 ล้านบาทในเวลา 2 ปี แถมยังเจอบัญชีม้าอีกเพียบ ซึ่งมีสาบสืบวงในเล่าว่า สมัยที่ พีเค-โยเกิร์ต คบกันใหม่ ๆ ทั้งสองใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายชนิดที่ว่าเดือนละ 1 ล้านบาทยังไม่พอ แถมเงินทุกบาทฝ่ายชายก็มอบให้เมียรักหมดจนตัวเองก็แทบจะไม่เหลือกิน
ส่วนฝั่งของ โยเกิร์ต สายสืบวงในแจ้งมาว่า บ้านและเงินที่เซ็นสัญญา โยเกิร์ต ยังไม่ได้รับอะไรสักอย่าง หรือแม้แต่เงินสักบาทเดียว ตั้งแต่วนที่หย่าจนถึงวันนี้ เพราะรู้มาว่าช่วงที่นางแบบสาวออกจากบ้านอดีตสามีมาใหม่ๆ เธอก็ได้ไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทที่เป็นคนดังอยู่เลย พอเริ่มตั้งตัวได้ก็ดาวน์คอนโดมิเนียมใหม่อยู่คนเดียว
ส่วนเรื่องที่ฝั่งนั้นจะฟ้อง โยเกิร์ต ก็รู้เรื่องนี้มาสักพักแล้ว และได้เตรียมติดต่อทนายเอาไว้เรียบร้อย เพื่อไปสู้คดีที่ชั้นศาล โดยไม่มีการพูดคุยใดๆ ก่อนไปเจอกันที่ศาลอย่างเดียว เพราะยืนยันว่าตอนอดีตสามีเซ็นสัญญาจ่ายค่าเลี้ยงดู พร้อมให้บ้าน 1 หลังนั้นไม่ได้มีอาการมึนเมาใดๆ” อย่างไรก็ตามชาวเน็ตต้องรอฟังข้อเท็จจากทั้งสองฝ่ายกันอีกที สุดท้ายเรื่องนี้จะจบลงอย่างไรก็ต้องรอติดตามกันต่อไป

