เอส กันตพงศ์ โพสต์คลิปวินาที หัวใจเต้นเร็วผิดปกติถึง 200 ครั้งต่อนาที จนแทบยืนไม่ไหว ต้องหยุดทำกิจกรรมทันที!
ต้องบอกเลยว่าเป็นพระเอกหนุ่มมาดเข้ม ที่แฟนๆ ต่างส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลาม สำหรับ เอส กันตพงศ์ ที่ก่อนหน้านี้เจอมรสุมในเรื่องสุขภาพอันสาหัสมาได้อย่างปลอดภัย กระทั่งต่อมา เอส ได้ออกมาอัปเดตชีวิตครั้งแรก โดยเผยว่า ความทรงจำในอดีตกลับมาเพียงแค่ 20 % เท่านั้น ทุกวันนี้เจอพี่ๆ น้องๆ ร่วมงานทุกคน เราจำชื่อไม่ได้ จำได้แค่หน้า อีกทั้งปี 2567 นี้ ต้อนรับการกลับมา ซึ่งเจ้าตัวได้รับบทบาทพิธีกรคนใหม่ในรายการ คุยแซ่บShow อีกด้วย

เอส เปิดคลิปนาที หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ขณะตีแบดมินตัน
เรียกได้ว่าเป็นนาทีชีวิตที่บอกเลยว่าช็อกสุดๆ เมื่อหัวใจของ เอส เกิดอาการเต้นเร็วผิดปกติ หลังจากออกกำลังกายตีแบดมินตัน ถึงขั้นต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที โดย เอส ได้โพสต์คลิปนาทีดังกล่าวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า เครื่องกระตุ้นหัวใจที่ผมฝังไว้ ก่อนที่ผมจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2566 ในที่สุดก็ได้เกิดการทำงานขึ้น หลังจากที่ผมฝั่งเครื่องนี้มาเป็นเวลา 1 ปีกว่าๆครับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสนามแบดมินตัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 17.58 น. หลังจากที่ผมพึ่งตีแบดในเกมส์แรกเสร็จ (ใช้เวลาตีไปประมาณ10นาที) และมาซ้อมต่อตามคลิป (ใช้เวลาไปประมาณ 1 นาที) แต่จู่ๆเครื่องก็ได้กระตุกขึ้นถึง 2 ครั้งอย่างแรงมากครับ!
ซึ่งตอนที่เครื่องทำงานมันกระตุกแรงมาก ถึงขนาดที่ส่งแรงกระแทกจากหัวใจ ไปที่หน้าอกและหัวไหล่ทั้งสองข้าง และขึ้นไปจนถึงช่องปากช่วงใต้ฟันกรามครับ และหลังจากที่เครื่องกระตุกเสร็จ ผมรู้สึกแทบจะไม่มีแรงไปทั่วทั้งตัว จนยืนแทบจะไม่ไหว และพูดแทบจะไม่ได้ จนต้องนั่งลงไปก่อนตามในคลิปที่ทุกท่านเห็นครับ หลังจากนั้น คุณแม่จึงต้องรีบนำตัวผมส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้าห้อง CCU(Cardiac Care Unit) แผนกผู้ป่วยวิกฤตหัวใจและหลอดเลือดครับ
ซึ่งผมได้นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมา 3 วัน 2 คืนตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 13 ถึงวันอังคารที่ 15 ต.ค. ครับ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้เครื่องทำงานเกิดจาก ณ ตอนนั้นเครื่องจับได้ว่าหัวใจของผมเต้นเร็วถึง 200 ครั้งต่อนาที เครื่องจึงทำการกระตุกเพื่อลดอัตราการเต้นที่เร็วเกินไปของหัวใจครับ
แต่สาเหตุหลักที่ทำให้หัวใจของผมเต้นเร็วถึง 200 ครั้งต่อนาที ในขณะที่กำลังยืนอยู่เฉยๆ ยังคงเป็นสิ่งที่อาจจะต้องใช้เวลาหาข้อสรุปอยู่ครับ เพราะผลการตรวจร่างกาย ณ วันนั้นที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ ค่าเฉลี่ยทุกอย่างออกมาเป็นค่าปกติหมดทุกอย่างครับ
ขั้นต้นสาเหตุไม่ได้มาจาก
1. การออกกำลังกาย (เพราะ ประวัติในการเต้นของหัวใจของผมเครื่องได้ทำการบันทึกไว้ทั้งหมด ซึ่งปกติผมจะเล่นครั้งละประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยประวัติในวันเหล่านั้น ไม่มีปัญหาในการเต้นของหัวใจแต่อย่างใดครับ)
2. ไม่เกี่ยวกับการแพ้อาหาร (เพราะผลการตรวจออกมาปกติครับ)
3. ไม่เกี่ยวกับการนอนพักผ่อนน้อย (เพราะผลการตรวจออกมาปกติ และตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาผมนอนวันละประมาณ 6-7 ชั่วโมงครับ)
หากได้ข้อสรุปเพิ่มเติมยังไง ผมจะพยายามมาแจ้งให้ทราบนะครับ หวังว่าผมคงยังจะมีโอกาสมากพอในชีวิตนี้ ที่จะสามารถมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับโรคนี้ เพื่อเป็นวิทยาทานที่เป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ
เอส กันตพงศ์
