เจนนี่ – สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่อดีตนักร้องสาวคนดัง มีล่า จามิล่า ได้ออกมาพูดถึงว่าตนเองเคยถูกทำร้ายร่างกายไปเมื่อ 2 ปีก่อนในบ้าน โดยน้องชายแท้ ๆ ของตนเอง
เจนนี่ รติพันธ์ เจอหนัก หลัง มีล่า เล่าว่าโดนทำร้าย “ทำไมถึงอันฟอลน้องสาว?”
แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ประเด็นบาดแผลน่ากลัวและน้องชายเท่านั้นที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง แต่ยังมีประเด็นที่ชาวเน็ตหลาย ๆ คนวิจารณ์ถึง เรื่องที่พี่สาวและแม่ของมีล่าช่วยกันปกป้องคนผิด งานนี้ล่าสุดทางฝั่งพี่สาวอย่าง เจนนี่ รติพันธ์ ก็ได้ขอออกมาแถลงเรื่องราวต่าง ๆ ในมุมของตัวเองบ้าง หลังจากพี่เพื่อนสาวคนสนิทอย่าง พรีน เดอะสตาร์ และ เน็ท ได้ออกมาพูดอะไรเป็นนัย ๆ ตั้งแต่วันก่อนแล้ว
โดยเจนนี่ ก็ได้โพสต์รายละเอียดผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า
“เจนนี่ขอโทษที่ออกมาพูดช้า เพราะทันทีที่ข่าวนี้ออกมา ต้องดูความรู้สึกคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ก่อนค่ะ เจนนี่เลยจำเป็นต้องใช้เวลาจัดการเรื่องในครอบครัว ก่อนที่จะมีโอกาสได้มาเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดมาเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้:
ก่อนอื่นอยากจะขอความกรุณาหยุดโจมตีคุณแม่นะคะ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก ลูกเจ็บ ลูกทะเลาะกัน คนเป็นแม่เจ็บยิ่งกว่า ลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เคยปกป้องฝ่ายไหน แต่เรื่องที่ทุกคนได้ฟังและตีความกันไปเป็นแค่เสี้ยวเดียวของเรื่องทั้งหมดเท่านั้น แม่และเจนนี่เป็นห่วงน้องทุกคนมาก และทำให้น้อง ๆ ทุกอย่างเท่าเทียมกันมาเสมอเท่าที่เราจะทำได้ ทั้งซักผ้าให้ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ตลอด ดอยดูแลรับส่ง หาดอนโดให้ ทั้งเรียกตำรวจและหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด
ที่ผ่านมาพาน้องไปรักษา จะได้หาย จะได้กลับมาเป็นครอบครัวอย่างครอบครัวอื่น พอน้องสาวได้ออกมาชี้แจงแบบนั้น ทำให้แม่ถูกคนอื่นด่า มันเจ็บปวดมากเลยค่ะ
เรื่องเกิดมา 2 ปี ทำไมเพิ่งมาออกมาพูด ต้องการอะไรกันแน่ เจนนี่โดนถล่ม เจนนี่ยอมรับได้ แต่ถ้าแม่โดนตำหนิ โดนถล่ม ทั้งที่ ไม่ใช่เรื่องจริง เจนนี่รับไม่ได้จริงๆ ปกติแม่จะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก แต่ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับร้องไห้อยู่เรื่อยๆ กราบขอเวลาทุกคนอ่านความจริงฝั่งของเจนนี่บ้างนะคะ”

“ความสัมพันธ์ของพวกเราพี่น้อง
เรา 3 คนพี่น้องอาศัยอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เกิด แต่ตลอดมาโดยเฉพาะช่วง 10 ปีหลัง ทั้งน้องสาวและน้องชายมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ตลอด ทั้งคู่ต่างรุนแรงใส่กัน ทั้งคู่มีการใช้อาวุธข่มขู่กันทั้งสองฝ่าย เจนนี่และแม่ซึ่งอยู่ในฐานะคนกลางมีความลำบากใจมาโดยตลอด ทั้งคู่คือน้อง ทั้งคู่คือลูกแม่ เคยมีเหตุการณ์ทะเลาะกันรุนแรง 1 ครั้งทำให้แตกหัก เลิกคุยกันไปเลย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องสาวไปๆมาๆระหว่าง ต่างประเทศและไทยเพื่อเรียนต่อ ตอนที่น้องสาวอยู่บ้านจะส่งน้องชายไปต่างจังหวัดแล้วตอนน้องสาวกลับต่างประเทศถึงจะให้น้องชายกลับมาอยู่บ้านเพื่อปกป้องจิตใจของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นไม่นานน้องชายก็เริ่มป่วยเป็นซึมเศร้า แม่และเจนนี่เลยพาน้องไปรักษาอาการซึมเศร้าและพยายามหาวิธีที่จะทำให้เขาดีขึ้น พอเริ่มอาการดีขึ้น ทุกคนจึงกลับมาอยู่บ้านด้วยกันอีกครั้ง”

“เรื่องราวในวันเกิดเหตุ 1
ในวันนั้นแม่ไปต่างจังหวัด ที่บ้านเลยจะมีแค่น้องชายซึ่งนอนอยู่ชั้น 2 และพี่สาวทั้งสอง แยกห้องนอนกันอยู่ชั้น 3 ตอนเวลาประมาณตี 4 เจนนี่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้อง รีบวิ่งเข้าไปดูในห้องน้องสาว แล้วสิ่งที่เจอคือน้องสาวนอนอยู่ในสภาพถูกทำร้ายหนักมาก ส่วนน้องชายยืนขาดสติและโมโหอย่างฉุนเฉียว เจนนี่ตกใจมาก ๆ ๆ ๆ แต่ต้องตั้งสติ รีบวิ่งเข้าไปขวางและพูดให้น้องชายได้สติใจเย็นลง จับแยกให้ไปอยู่อีกห้อง มีล่าสู้จนหมดแรงแต่ก็ยังพยายามฝืนตัวเอง เจนนี่รีบโทรหาตำรวจเป็นสิ่งแรก ต่อด้วยหารถจากโรงพยาบาลใกล้ บ้านเพื่อที่จะให้มาถึงเร็วที่สุด ในเวลานั้นเราคิดอยู่อย่างเดียวคือทำยังไงก็ได้ให้น้องสาวปลอดภัย และถึงมือหมอให้เร็วที่สุด พอรถพยาบาลพาน้องสาวไป ตำรวจก็มาถึงแล้วจับน้องชายใส่กุญแจมือไปที่โรงพัก เจนนี่รีบไปดูน้องสาวที่โรงพยาบาลแล้วฝากน้องสาวไว้กับป้า เพราะตำรวจโทรตามให้รีบไปทำเรื่องที่โรงพัก ในระหว่างที่เดินทางไปโรงพัก เจนนี่โทรบอกแม่แม่ก็รีบเดินทางกลับจากต่างจังหวัดทันที เจนนี่พยายามค้นหาโรงพยาบาลและคุณหมอที่ดีที่สุดเพราะคิดว่าอาการน้องสาวหนักมากๆเลยอยากให้พันอันตรายและอยากให้มีแผลเป็นให้น้อยที่สุด”

“เรื่องราวในวันเกิดเหตุ 2
พอไปถึงโรงพักตำรวจถามว่าน้องเคยรับการรักษาทางจิตไหม ดูน้องมีความผิดปกตินะ เราก็เลยตอบไปตามตรงว่าเคยรับการรักษาอยู่ที่ศรีธัญญาค่ะตำรวจจึงพิจารณาว่าในกรณีแบบนี้ต้องทำใบส่งตัวไปที่ศรีธัญญา ในฐานะพี่สาวและประชาชนที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ใน เมื่อตำรวจแนะนำมาแบบนี้เราก็ทำตาม ตำรวจนำส่งที่โรงพยาบาลและน้องชายก็ได้ถูกแอดมิดเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลทันที ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาน้องสาวก็สามารถย้ายไปที่โรงพยาบาลใหม่ที่มีคุณหมอที่เก่งมาก ๆระดับประเทศ ช่วยผ่าตัดให้ภายในวันนั้นเลย
หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้นเจนนี่ได้ถามน้องชายว่ทำไมถึงทำแบบนี้ น้องตอบว่า น้องไม่อยาก
อยู่แล้ว..และวางแผนที่จะฆ่าตัวตาย เตรียมอุปกรณ์ไว้ในห้อง และออกไปซื้อสุรามาดื่มย้อม
ใจก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย เมื่อขาดสติก็มีความคิดขึ้นมาในหัวว่า หนึ่งในเหตุผลที่เขา
เป็นแบบนี้เขาคิดว่าเพราะมีล่า เขาเลยตัดสินใจทำแบบนั้น”

“เหตุการณ์ 2 ปีหลังจากนั้น
ตอนนี้เจนนี่และแม่โดนกระแสหนักมากว่าทำไมสองปีที่ผ่านมาเราไม่เคยทำอะไรเลย แต่จริงๆ
แล้วเราทำมาโดยตลอดไม่เคยนิ่งเฉยเลยค่ะ
สำหรับมีล่าหลังจากที่น้องเข้ารับกรรักษาบาดแผลภายนอกเสร็จสิ้นแล้ว แต่น้องก็ยังอยู่ในขั้นตอนการรักษาและดูแลโดยจิตแพทย์ เราในครอบครัวจึงคุยกันว่า การหาที่อยู่ใหม่ให้มีล่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้มีล่ากลับไปอยู่ในที่ ๆเดยเกิดเหตุการณ์รุนแรง และเป็นคอนโดที่อยู่ใกล้ โรงพยาบาลและที่ทำงานเดิมที่สุด ซึ่งมีล่าเองก็เต็มใจและเห็นด้วย ที่ผ่านมาแม้น้องสาวจะย้ายออกไป แต่แม่ก็เข้าไปดูแลความเป็นอยู่ของน้องเป็นประจำไม่เคยขาด และเต็มที่ที่สุดเท่าที่คุณแม่จะทำให้ได้ ไม่ว่ามีลำาจะต้องการอะไรหรือมีปัญหาอะไรแม่จะรีบไปหาน้องทันที
ส่วนน้องชายหลังจากรักษาตัวที่ศรีธัญญาอยู่ 2 เดือนกว่า หมอก็ตัดสินใจต้องปล่อยตัวน้องด้วยอาการที่ดีขึ้นให้น้องออกจากโรงพยาบาล แต่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เจนนี่กับแม่ก็ยังต้องคอยพารักษาทุกอาทิตย์ เข้าออกโรงพยาบาลอยู่ตลอดและทานยาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเจนนี่และแม่ก็พยายามเยียวยาให้น้องดีขึ้น คุณหมอบอกว่าต้องให้น้องค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่สังคมให้ได้ต่อไป”

“ทุกคนในครอบครัวทุกข์ทรมานและไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วเราก็พยายามเยียวยาแก้ไขให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาสิ่งที่น้องสาวร้องขอคือที่อยู่ของน้องชาย ไม่ได้มีการพูดถึงการขึ้นศาลอย่างชัดเจน
ซึ่งถ้าหากต้องไปในทางนั้นจริง ๆเราเองก็ยินดี แต่เราไม่สามารถให้ข้อมูลนี้กับน้องสาวได้ ได้เพียงบอกแค่ว่าน้องชายกำลังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบำบัดจิต ทั้งสองคนมีเรื่องแตกหักรุนแรงมาตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ เลยคิดว่าการไม่บอกสถานที่เพื่อให้ทั้งสองคนเลี่ยงต่อการปะทะกัน ให้ต่างคนต่างอยู่ต่างรักษาให้ดีขึ้นก่อนเป็นสิ่งที่เราคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ถ้าน้องสาวยืนยันจะฟ้องและขึ้นศาลเพื่อรับความเป็นธรรมเราก็ยินดีทำตามขั้นตอนไม่เคยห้าม เพียงแต่เราในฐานะพี่สาวเลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการให้ทั้งสองฝั่งได้รับการรักษาทั้งกายและใจก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าการตัดสินใจแบบนั้นมันผิดต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ”

“สำหรับเรื่องทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เป็นรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เจนนี่ยินดีหากจะมีการตรวจสอบหลักฐานและเอกสารต่างๆ
สุดท้ายเจนนี่ขอความเห็นใจสังคมด้วย เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องภายในครอบครัว อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งรีบตัดสิน อย่าเพิ่งวิจารณ์ อย่าเพิ่งด่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับน้องสาวมันรุนแรงมาก ๆ และไม่มีอะไรที่จะมาชดเชยได้เลย น้องชายผิดเต็มๆ ไม่มีใครปกป้องได้ ว่ากันตามกฎหมาย และเจนนี่เข้าใจในความรู้สึกโกรธของทุกคนมากๆ แต่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ตามข่าว ครอบครัวเราผ่านอะไรมาบ้าง เราได้พยายามทำการรักษาน้องชายแล้ว หลังเหตุการณ์รุนแรงเราก็พยายามรักษาสถานะภาพครอบครัวอย่างดีที่สุดแล้ว แม่และเจนนี่หาทางแก้ไขมาโดยตลอด ไม่เคยละเลยเลยจริง ๆ คงไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวทะเลาะกันเอง
ขอความกรุณาเข้าใจครอบครัวของเราด้วยนะคะ
ขอขอบคุณทุก ๆกำลังใจที่ส่งให้มีล่าและครอบครัวเรามากๆ
สิ่งนี้มีค่ากับเรามากจริงๆค่ะขอบคุณค่ะ”

โดนจวกยับ ! พรีน เดอะสตาร์ ลั่น กรณี มีล่า อย่าฟังด้านเดียว ชาวเน็ตงง ‘สรุปใครคือเหยื่อ?’
ขอขอบคุณภาพจาก majanie_