ชาวเน็ตซัดกลับคนที่ออกมาแฉ เจนนี่ รัชนก ปมถูกพี่เลี้ยงสั่งห้ามแตะตัว ยูจิน ด้าน เจนนี่ ร่ายยาวปกป้องตนเอง
เป็นดราม่าที่กำลังร้อนระอุ เมื่อมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์แฉนักร้องลูกทุ่งรายหนึ่งว่า “เฮนะ!! อีเล่าไหรหลกๆ ให้ฟังพี่น้องเหอ พอดีพาลูกมาระบายสีที่ ร.5 มาเจอกับนักร้องดังที่บ้านอยู่ทุ่งสงกัน พาลูกมาระบายสีกันพอดีลูกเค้ากับหลานเราวิ่งเล่นกัน ลูกเค้าทำท่าอีล้ม ด้วยความที่เราเป็นแม่คนแล้ว ก็ว่าจะช่วยจับเด็กอย่าให้ล้ม พี่เลี้ยงพูดว่า อย่าโดนตัวน้อง ถูกตัวน้องไม่ได้นะคะ แม่เห้ย ฉันก็ไม่อยากจะจับหรอกนะ แต่เป็นห่วงเด็ก เลยอยากช่วย แต่คำพูดพี่เลี้ยงทุเรศมาก ถ้าห่วงลูกขนาดนั่นก็ไม่ต้องพามาเที่ยวสถานที่พันนี้ค่ะ เก็บลูกคุณใส่ตู้แก้วไว้โชว์ไว้ดูคนเดียวเลยค่ะ พอเริ่มดัง แล้วกลับมาลืมตัวอีกแล้วนะ ฉันเลิกติดตามไปแล้วค่ะ เด็กนั่นน่ารักนั่นแหละ แต่ผู้ใหญ่ทำตัวหน้าเกลียดมาก ขอบอก” งานนี้หลายคนจึงโยงไปที่สาว เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หทดถ้าสดชื่น

ล่าสุดทางด้าน เจนนี่ รัชนก ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความรับผิดชอบ โดยมีข้อความว่า “ก่อนอื่นต้องขอบคุณหากเหตุการที่เกิดขึ้นเกิดจากน้องกำลังจะล้ม และต้องกราบขอโทษแทนพี่เลี้ยงของ ยูจิน ด้วยค่ะ ที่พูดว่าไม่อนุญาตให้จับตัวน้อง เนื่องจากน้องยูจินไม่สบาย มีน้ำมูก เลยเป็นห่วง จึงพูดแบบนั้นออกไป แต่จากการสอบถามพี่เลี้ยงและเพื่อนๆ เจนนี่ อีก 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องที่น้องจะล้มไม่เป็นความจริง แต่สาเหตุมาจาก น้องยูจินกำลังเล่นอยู่แต่ทางพี่ที่โพสต์ต้องการจะจับน้อง (โดยพี่เลี้ยงไม่ทราบเจตนาว่าจะจับเพื่อถ่ายรูปหรืออย่างไรเพราะตอนนั่นน้องกำลังเล่นอยู่ค่ะ และญาติๆ ของพี่ต้นโพสต์ ประมาณ 2-3 คน ก็กำลังถ่ายรูปน้อง เลยคิดว่าจะจับไปถ่ายรูปเลยห้ามไปก่อน และต้องกราบขออภัยหากเพื่อนๆ และทางพี่เลี้ยงเข้าใจผิดในส่วนนี้ เพราะทุกคนก็ยังยืนยันตามที่เห็นค่ะ)
สำหรับเรื่องแบบนี้ เจนนี่ แค่มองถึงเจตนาทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับพี่ต้นโพสต์ เจนนี่เข้าใจดีค่ะว่าเสียความรู้สึกที่โดนห้ามจับน้อง และสำหรับพี่เลี้ยงเจนนี่ก็เข้าใจเจตนา เพราะเค้าบอกว่าน้องกำลังเล่นเลยเป็นห่วงหากใครจะมาจับหรืออุ้ม ในขณะที่เค้ากำลังสนุก ทุกอย่างล้วนมาจากความเป็นห่วงน้องค่ะ เพราะเหตุการณ์ล่าสุด คือน้องโดนจับแก้มมาแล้วมีพริกติดหน้าน้องจากมือของคนที่จับ พี่เลี้ยงคงกลัวว่าจะเกิดขึ้นซ้ำเลยต้องพูดห้ามไว้ก่อน เจนนี่เข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก ต้องกราบขอโทษจากใจจริงในส่วนนี้ค่ะ
แต่สิ่งที่เจนนี่ไม่โอเคคือการพาดพิงถึงความดังแล้วลืมตัว เจนนี่ไม่แน่ใจว่า พี่กำลังว่าน้องหรือว่าเจนนี่ เพราพถ้าว่าเจนนี่ เจนนี่นั่งระบายสี ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ไม่น่าจะเอามาเหมารวม แล้วไปโพสต์กันแบบนี้ สำหรับ เจนนี่ เองไม่เคยลืมตัวว่าตัวเองดังมาจากอะไร ไม่เคยลืมตัวว่าตัวเองเป็นใคร และไม่เคยทนงตัวว่าตัวเองวิเศษกว่าใครๆ เจนนี่อยากให้พี่ๆ ทุกคน แยกระหว่าง ความดังกับการเลี้ยงลูกออกจากกัน ต่อให้ดังหรือไม่ดัง ทุกคนก็มีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไปค่ะ ในส่วนนี้ และจะระมัดระวังในครั้งต่อๆ ไปค่ะ”
ต่อมาจึงทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ เจนนี่ รัชนก จนทำให้เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ข้อความปกป้องตนเองว่า “หลายคนบอกแค่เรื่องลูก ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ลองตามไปอ่านในคอมเมนต์ดูค่ะ ว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงต้องลากไปพูดกันขนาดนี้ มันไม่ใช่เลย มันมี 2 ทางให้เลือกคือ ปล่อยผ่าน กับปกป้องตัวเอง อันนี้บอกเลยว่าขอปกป้องตัวเองค่ะ”

งานนี้มีแฟนคลับของ เจนนี่ รัชนก แห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้มากมาย อาทิ “จริงๆ แล้วเป็นแม่น่าจะรู้นะคะไม่ควรจับตัวเด็กทุกวันนี้เชื้อโรคอยู่รอบตัว พี่เลี้ยงเขาก็ทำหน้าที่ของเขาอยู่ คนเมนต์ก็เมนต์กันนอกประเด็น เห็นใจน้องเจนนี่เลย”
“ส่วนตัวมีลูก ก็ไม่เคยกล้าไปจับลูกใคร ที่ไม่รู้จักหรือไม่สนิทนะคะ เพราะส่วนตัว ถ้าไม่รู้จัก ไม่สนิทก็ไม่ชอบให้ใครมาจับลูกตัวเองเหมือนกันค่ะ”
“สำหรับเราในฐานะแม่คน เรามองว่าพี่เลี้ยงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี คนที่จะมาจับลูก ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ไม่ป่วย ไม่มีโรคภัย หรือแม้กระทั้งไม่มีอะไรบ่งชี้ได้เลยว่าเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีมั้ย การไม่ให้จับคือการกันไว้ก่อนแก้ อาจใช้คำพูดที่ฟังแล้วห้วนไปหน่อย อาจจะเป็นบริบทที่ตกใจเลยพูดโพล่งออกไป และเรามองว่าการหลงประเด็นไปด่าเรื่องอื่น ค่อนข้างแย่มากๆ ไม่แยกแยะ ทำเหมือนมีความเกลียดชังมาก่อนอยู่แล้ว เพราะที่ด่าออกมาเป็นเรื่องในอดีต เหมือนตั้งใจที่จะด่าแต่แรก และประเด็นสุดท้ายไม่ควรไปสัมผัสตัวลูกคนอื่นที่เราไม่รู้จักเด็ดขาดค่ะ เว้นเสียแต่ว่ากรณีคอขาดบาดตาย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับลูกเค้า เรานั่นแหละที่จะรับผิดชอบไม่ไหว”
อันนี้ไม่ได้ดัดจริตนะ พอดีเป็นแม่คน ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่สถานการณ์ตอนนี้ เด็กป่วยกันเยอะมาก ป่วยง่ายมาก แล้วเป็นกันที หนักๆ เป็นโรคอะไรกันแปลกๆ อาจจะกลัวเด็กป่วยหรือเปล่าคะ อันนี้เข้าใจเลย เวลาเด็กป่วยที น่าสงสารมากๆ จะไม่ให้ออกไปใช้ชีวิตก็ไม่ได้อ่ะ ยากนะ”
“คนโพสต์ก็มีลูก น่าจะรู้จักดีว่าเด็กเป็นยังไง เราคนนึงที่ไม่ชอบเอามือไปจับเด็กคนอื่น เพราะเราไม่รู้ว่ามือเราสะอาดพอหรือเปล่า เด็กจะแพ้หรือเปล่า เราบอกตรงๆ ว่าไม่ชอบให้ใครมาจับแก้มหรือมือลูกเรา เพราะทุกวันนี้เชื้อโรคมีรอบตัว สงสารลูกเวลาต้องป่วย เป็นแม่คนเหมือนกัน ก็น่าจะเข้าใจกันดีที่สุดนะ”
