เมรี คำภีร์ เปิดใจแฉหมดเปลือกครั้งแรก คบ แอมมี่ The Bottom Blues 1 ปีเจอต้องเจอกับอะไรบ้าง ย้อนเหตุการณ์ ท้องแต่ฝ่ายชายไม่รับ และขอตรวจดีเอ็นเอ
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นดรามาที่ชาวเน็ตต่างพูดไม่ขาดปาก หลังจากที่ เมรี คัมภีร์ ได้ออกประกาศว่าเธอตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว พร้อมเดินหน้าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่ขอให้พ่อของลูกมีส่วนเกี่ยวข้อง แม้เธอจะไม่ได้เอ่ยถึงชื่อแฟนเก่า แต่ก็เป็นที่รู้ดีว่าของชาวเน็ตว่าก่อนหน้านี้เธอได้คบกับนักร้องหนุ่ม แอมมี่ The Bottom Blues ทำให้ฝ่ายชายโดนโจมตีอย่างหนัก โดยฝ่ายชายก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ที่เลิกกันเป็นเพราะฝ่ายหญิงขู่ทำร้ายลูกสาว ส่วนประเด็นตั้งท้องเมื่อตนเองทราบข่าว ก็ได้แสดงความรับผิดชอบแล้ว โดยมีการวางแผนฝากครรภ์ และมีการคุยกันไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งสำหรับเรื่องนี้
เมรี คำภีร์ เปิดใจแฉหมดเปลือก คบ แอมมี่ เจออะไรบ้าง
ล่าสุดทางด้าน เมรี คัมภีร์ ได้ออกมาเปิดใจกับสำนักข่าว อมรินทร์ทีวี โดย เมรี ได้เผยว่า “ถ้าย้อนกลับไป ตอนที่เขารู้เรื่องเหมือนหนูโดนทิ้งเอาไว้ให้จัดการทุกอย่างคนเดียว เผชิญคนเดียว จนหนูไม่ไหวแล้ว ต้องออกไปทำงาน ก็เลยเปิดเลยแล้วกัน ยังเสียใจ ยังโกรธ ยังผิดหวัง ทุกวันนี้ยังนอนไม่หลับ อยากออกไปอัลตราซาวด์ทุกวันเพราะไม่รู้ว่าลูกยังอยู่หรือเปล่า เพราะทางนั้นก็สุขภาพไม่ดี หนูก็สุขภาพไม่ดี ปกติเมจะใช้กฎ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ส่องกระจกแล้วชมตัวเองทุกเช้า แต่ตอนนี้หนูทำไม่ได้เลยอ่ะ แค่ส่องกระจกก็สงสารตัวเอง”
“ถ้าถามถึงความรู้สึกแรก หนูพอจะเดาออกตั้งแต่ยังไม่เลิกกันไง ก็คือดีใจอยู่แล้ว และบอกเขา ก็ไม่เป็นไร ดูแลกันไป จะดูแลลูกให้ดี จะพยายามหลุดออกจากเรื่องราวทุกอย่างให้ได้ ที่มองเห็นอะไรแล้วยังเจ็บปวดอยู่ ตอนนี้เป็นเรื่องของการที่ว่า ทำไมมึงยังมีความสุข ไม่ได้นึกถึงความทรงจำเก่าๆ แล้ว เมมองว่าทุกอย่างมันปลอมไปหมด คนที่เราคบมา 1 ปี ไม่ใช่ตัวจริง ตอนนี้ตัวจริง”
ความรู้สึกตัวเองตอนนี้ ?
“ก็น้อยใจชีวิต โกรธมัน แค้น แต่ไม่ได้อยากทำอะไรเยอะ มันก็มีคนที่บอกจัดการไหม แต่หนูกลัวบาปจะตกที่ลูก”
กลัวตัวเองจะเป็นซึมเศร้าด้วยไหม ?
“หนูว่าหนูเป็นมาอยู่แล้ว ตอนนี้คือ ที่เคยเป็นหนูถ้าเข้าสู่จุดนั้นจะรู้ว่าต้องจัดการยังไง โทรหาเพื่อนหรืออะไร แต่รอบนี้โทรหาเพื่อนไม่ได้ อยู่คนเดียว ไม่ได้บอกใคร อยู่ในห้อง เครียด จะทำยังไงต่อดี คนเดียวที่เราจะปรึกษาได้คือเขา แต่เขาไม่อยู่ตรงนั้น ก็ 3 อาทิตย์ที่อยู่แบบนั้นมา“
เลิกกันเมื่อไหร่ ?
“จบกันจริงๆ คือ 14-15 ธันวาคมที่ผ่านมา”
ตอนที่เป็นข่าวแล้วเขาติดต่อมา ?
“เขาไม่ได้ติดต่อมาด้วยใจเขาด้วยซ้ำ หนูเป็นคนไปตามเขาก่อน คือ หลังจากรู้ว่าท้องปุ๊บ หนูเอาอัลตราซาวด์ไปให้ดู หนูอยู่หน้าบ้านเขานะ แต่เขาไล่ แล้วบอกจะเอาตำรวจมาไล่ ต่อมาหนูไปอันตราซาวด์อีกรอบ หมอเขาบอกว่าต้องใช้เลือดของพ่อในการตรวจหาธาลัสซีเมีย ถ้าหากเมมีเชื้อ เมก็ฝากคนไปติดต่อว่าขอให้มาช่วยทำหน้าที่ตรงนี้ได้ไหม แต่เขาก็ส่งข้อความฝากมา 3 ข้อ คือ 1. ทำไมเพิ่งมาตรวจตอนเลิกกันแล้ว 2. ที่ไปเชียงใหม่เมื่อเดือนธันวาคม ไปกับใคร ไปทำอะไร ซึ่งเมไปทำใบขับขี่ค่ะ แล้วก็ไปกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน และเมอายุครรภ์ 3 เดือน ข้อที่ 3. ขอตรวจดีเอ็นเอ เมก็บอกก็ตรวจดิ”
“เมมองว่าที่เขาสงสัยมันคือการแสดง เพราะตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันเราก็พูดเรื่องนี้กันมาตลอด แต่พอเลิกกันแล้วจะเท ก็ทำเป็นงง ทำเป็นใช่เหรอ เมก็เลยรู้สึกว่า มึงเป็นใครเนี่ย”
ชาวเน็ตคอมเมนต์ว่าพฤติกรรมฝ่ายชายเราไม่รู้เหรอว่าเป็นยังไง ?
“รู้ ทำไมจะไม่รู้ แต่เมเห็นว่าเป็นเรื่องนานแล้ว เมอยากปกป้องเขาเรื่องหนึ่ง คือมีคนมาคอมเมนต์ว่า ผู้ชายไม่เคยดูแลลูก ลูกคนแรกของเขา ไม่จริงนะ เขาดูแลและรักมาก และจ่ายค่าเทอมให้ลูก 100 % จากเรื่องนี้เมก็มองว่า เขาก็เป็นพ่อที่ดีนะ และตอนนี้เขาอายุ 35 แล้ว ตลอดเวลาที่คบมาดีมากๆ นะ เขาคงโตแล้ว ดีขึ้นแล้ว อะไรหลายๆ อย่างทำให้เมเชื่อ”
“ตอนเมเริ่มคบกับเขา เขาเพิ่งออกจากเรือนจำ เขาเก็บเพลงเอาไว้เยอะแต่ยังทำเพลงไม่สำเร็จ เมก็ช่วยผลักดันเขา เพราะปกติเมทำยูทูบกับพ่อมีรายได้ตลอด แต่เมทิ้งทุกอย่างมาช่วยเขาทำเพลงจนสำเร็จ แม้กระทั้ง MV ที่เพิ่งถ่ายไป ก็ทำกัน 2 คน ด้วยกล้องโง่ๆ
แต่ระหว่างที่ถ่าย เขาทำร้ายเมมาตลอด ทำร้ายแบบทำร้ายจริงๆ ทำร้ายร่างกาย แต่เมก็อดทน เรื่องการทำร้ายคนเก่าก็โดน ช่วงหลังๆ มันหนักมาก คือทุกวัน และแทบจะตลอดเวลา ตอนแรกเมมองว่า คนรักกันเดี๋ยวก็ปรับให้กันได้ แต่สุดท้ายรอบทำ MV ก็ไม่ไหวแล้ว และสังเกตประจำเดือนตัวเองด้วย เรารู้สึกต้องหยุด ไม่อยากให้ลูกอยู่ในครอบครัวที่พ่อพร้อมจะทำร้ายแม่เมื่อไหร่ก็ได้“
