เอส กันตพงศ์ อัปเดตชีวิตครั้งแรก ผ่านรายการ เที่ยงบันเทิงสด ครั้งแรก หลังผ่านมรสุมจากอาการป่วยโคม่า เผย ความทรงจำในอดีตกลับมาแค่ 20 %
หลังจากที่ผ่านมรสุมชีวิตในเรื่องสุขภาพมาได้อย่างปลอดภัย สำหรับพระเอกหนุ่ม เอส กันตพงศ์ ที่เกิดอาการวูบหมดสติกลางงานอีเวนต์ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และได้พักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU นานร่วมเดือน โดยอาการของเจ้าตัวก็ดีขึ้นตามลำดับ หลังเข้าผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ อีกทั้งภรรยา คิตตี้ คริสติน่า ก็มักจะออกมาอัพเดตอาการของสามี ให้ได้รู้กันอย่างทันท่วงที พร้อมออกมาเปิดภาพของ เอส ที่กลับมามีรอยยิ้ม และออกมาใช้ชีวิตข้างนอกร่วมกับครอบครัว ทำเอาแฟนคลับหลายคนโล่งใจกันเป็นอย่างมาก

เอส อัปเดตชีวิต! เผย ความทรงกลับมาไม่เต็มร้อย
ล่าสุด เอส ออกมาอัปเดตชีวิตลงบนจอแก้วครั้งแรก ผ่านทางรายการ เที่ยงบันเทิงสด โดยจ้าตัวได้เล่าว่า ตอนนี้สุขภาพร่างกาย และความจำในชีวิตประจำวันปกติดี แต่ความทรงจำในอดีตจดจำได้เพียง 20% แทบจะไม่กลับมาเลย ก่อนออกจากโรงพยาบาลคุณหมอให้เวลาประมาณ 3 เดือน ให้รีบไปสถานที่เก่าๆ ไปเจอพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เคยร่วมงาน แต่นี่เกือบปีแล้ว ความจำในอดีตก็เลยไม่ค่อยกลับมา ทำให้ผมรู้สึกเข้าใจว่า อาจจะไม่มีความสำคัญที่จะให้มันกลับมาเท่าไหร่ แต่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่า โชคดีที่เขียนแพลนอนาคตตัวเองเก็บไว้ถึงปี 2578 เป็นภาษาอังกฤษ เลยทำให้พอรู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ ยังมีสิ่งที่ผมชอบเหมือนเดิมอยู่ ความฝันสูงสุดเหมือนเดิม แต่แนวทางจะไปถึงความฝันของผมมีเปลี่ยนบ้าง ตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนคนก็มาให้กำลังใจ พอรู้ว่าทุกคนรักเราแบบนี้ ทำให้รู้สึกไม่อยากยอมแพ้

คุณแม่บอกว่าผมฟื้นมาแล้วพูดภาษาอังกฤษอย่างเดียว แล้วพูดอย่างเดียวเลยว่า ผมต้องออกไป ผมต้องไปทำงาน ทุกวันนี้เจอพี่ๆ น้องๆ ร่วมงานทุกคน ผมจำชื่อไม่ได้เลย แต่ผมจำหน้าได้ สิ่งแรกที่อยากจะทำคือเล่นละครบู๊ แต่ฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่ กับเรื่องธุรกิจก็มีคนที่คุยไว้ติดต่อมาทางครอบครัวผม ผมก็ต้องไปหาข้อมูล แต่ก็มีข้อเสียตัวเองอีกเป็นคนความลับเยอะจัด ไม่ค่อยบอกใคร จนภรรยาบอกว่าเป็นยังไงล่ะ ได้เรียนรู้หรือยังว่าข้อด้อยของคุณคืออะไร
ในส่วนของสัญญา กับช่อง 7HD มันเหมือนเป็นสัญญาใจกันไปแล้วครับ กับพี่ๆ ทุกคนในช่อง คือผมเป็นคนที่ใครที่ร่วมงานกันแล้วใกล้ชิดกัน ผมจะรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนครอบครัว ต่อให้สมมติว่าเราจะย้ายไปแต่ละที่แล้ว พี่คนนี้ น้องคนนี้ คุณลุง คุณป้าคนนี้ที่อยู่ในช่อง 7HD ก็ยังเป็นครอบครัวของผมอยู่ดี
