เอาแล้ว! หนุ่ม กะลา เข้าพบ ทนายเดชา เพื่อยื่นฟ้องคนใกล้ชิด 2 คน หลังถูกยักยอกเงิน เข้าบัญชีส่วนตัวจำนวนเงิน 66 ล้านบาท
ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งนักร้องที่แฟนๆ ต่างชื่นชอบกันอย่างมาก สำหรับนักร้องเสียงนุ่ม หนุ่ม กะลา ที่ก่อนหน้านี้มีประเด็นต่างๆ ให้ติดตามรัวๆ จากกรณีภรรยา จูน เพ็ญชุลี ได้ทำการฟ้องร้องคู่กรณีมือที่สามเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ต่อมาผลสรุปออกมาว่า ศาลมีคำสั่งพิพากษาสาวคู่กรณี ให้ชดใช้ 4 ล้านพร้อมดอกเบี้ย กระทั่ง จูน ได้ออกมาเปิดใจหลังจบคดีฟ้องมือที่สามเอาไว้ว่า ทุกกระกระทำมีราคาต้องจ่ายพอใจในคำตัดสินของศาล ส่วนความสัมพันธ์กับ หนุ่ม กะลา ยังไม่ได้หย่ากัน เป็นพ่อและแม่ที่ดีของลูกสาว
หนุ่ม กะลา ยื่นฟ้อง 2 คนใกล้ชิด หลังยักยอกเงินร่วม 66 ล้าน!
ล่าสุด หนุ่ม กะลา ได้เข้าพบ ทนายเดชา เพื่อยื่นฟ้องคนใกล้ชิด 2 คน ที่ยักยอกเงินของบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัว เป็นจำนวนเงิน 66 ล้านบาท โดย ทนายเดชา ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางเพจ ทนายคลายทุกข์ เอาไว้ว่า #หนุ่มกะลายืนยันมอบหมายให้ทนายเดชายื่นฟ้องคนใกล้ชิดจำนวน 2 คนที่ยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองบริบูรณ์ 365 เป็นเรื่องจริง โดยการโอนเงินของห้างเข้าบัญชีส่วนตัวโดยทุจริต รวม 452 ครั้งเป็นเงิน 66,359,957 บาทที่ศาลแขวงสมุทรปราการ #มีพยานหลักฐานชัดเจนและยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาตรา 91 มาตรา 352 และมาตรา 353 คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดีชู้สาวหรือเรื่องเมียหลวงเมียน้อยแต่อย่างใด นอกจากนี้หนุ่มกะลายังได้มอบหมายให้ทนายเดชาดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายชื่อเสียงผ่านโซเชียลมีเดียหรือออกรายการทีวีต่างๆเพิ่มเติม
จึงเรียนมายังพี่น้องสื่อมวลชนเพื่อทราบ
นายเดชา กิตติวินันท์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากหนุ่มกะลาสอบถามรายละเอียดที่ 02-948-5700 ในเวลาราชการเท่านั้น

อีกทั้งยังได้คอมเมนต์ต่อใต้โพสต์ว่า #คำพิพากษาฎีกาที่ 2266/2558 #เทียบเคียงคดีคนใกล้ชิดหนุ่มกะลายักยอกเงินของห้างไป 66 ล้าน
“จำเลยเป็นกรรมการของบริษัทถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของบริษัทการที่กรรมการบริษัททำสัญญาค้ำประกันหนี้ของบุคคลอื่นโดยกรรมการได้รับผลประโยชน์เป็นส่วนตัวส่วนบริษัทไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆเป็นการทำผิดหน้าที่โดยทุจริตและเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินผิดมาตรา 353”
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 353 ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นกระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆโดยทุจริตจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
