อุงเอิง สัณห์สิริ เจอชาวเน็ตทัวร์ลงแบบงงๆ ปมดรามาสวมสร้อยตัวเอสให้หลาน ล่าสุดเจ้าตัวชี้แจงแล้ว คนแห่คอมเมนต์กระหน่ำ!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาวที่เจอดรามาเข้าไม่หยุดไม่หย่อน แต่เจ้าตัวก็ยังเข้มแข็งและฝ่าฟันอุปสรรคมาได้โดยมีแฟนคลับและคนรอบข้างคอยให้กำลังใจ สำหรับ อุงเอิง สัณห์สิริ ยูทูบเบอร์-อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่กลับมาทำคอนเทนต์ลงช่องยูทูบอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวหายหน้าหายตาไปสักพัก เนื่องจากเจอประเด็นดรามาถาโถม จนต้องหยุดไปพักใจอยู่นานพอสมควร

อุงเอิง ชี้แจงดรามา สวมสร้อยรูปตัวเอสให้หลาน ?!
ล่าสุดดูเหมือน อุงเอิง จะเจอชาวเน็ตทัวร์ลงอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าตัวก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงในสตอรี่ส่วนตัวว่า “ขออธิบายเรื่องสร้อย S ทีเดียวเลยนะคะ story น้องสาวมาป่วนห้อง ที่เราเองรู้สึกว่าน้องน่ารักมากๆ ยิ้มหวานๆ กับกล้อง แอบกินขนมหวาน หยิบสร้อยพี่มาใส่เล่นไปเรื่อย ตามประสาเด็กน้อย เราดูแล้วมีความสุข และเอามาแชร์เพราะคิดว่ามันอาจจะมอบ energy ดีๆ ให้กับคนที่ได้เห็นค่ะ
แล้วมากกว่านั้นคือ คุณครูที่เอิงเคารพรักทุกคนก็ชอบเรียกเอิงด้วยชื่อจริง ยัยสัน Sansiri นั่นเป็นเหตุผลว่าถึแม้เอิงจะปลี่ยนชื่อ แต่เอิงก็ยืนยันว่าจะให้ชื่อใหม่ขึ้นต้นด้วยตัว S ชื่อแบรนด์ก็ต้องให้มี S แม้กระทั่งคำคมประจำใจก็ต้องมี S เพราะสำหรับเอิง S มันมี Story ในชีวิตของเอิงที่ช่วยย้ำเตือนตนเองว่า “Who is the real me”
พร้อมแปะภาพคอมเมนต์ของชาวเน็ตรายหนึ่ง ที่เข้ามาพิมพ์ใต้โพสต์ของเธอว่า “รู้มั้ยคะเรากำลังจะให้อภัยเค้าคนนี้แล้ว ต่อให้เห็นสร้อยเส้นนี้ ไปเสิร์ชชื่อจริงคุณก็ขึ้นตัวด้วยตัว S ก็ยังคิดบวกได้ว่าคงไม่ใช่การประชดประชัน แต่พอเห็นคุณลงสตอรี่หลานใส่สร้อยนี้เน้นๆ อีก เราว่าเรามองคุณในแง่ดีไม่ได้อีกแล้วค่ะ เพราะจิตใจคุณมีแต่เอาชนะ ประชดประชัน”

ซึ่งเธอก็ได้ตอบกลับคอมเมนต์นี้ไปว่า “ขออธิบายในมุมของเอิงนะคะ ชื่อเดิมของเอิงคือ Sansiri ชื่อใหม่ Shinapa ชื่อของคุณพ่อ และนามสกุลเก่าก็ขึ้นต้นด้วย S ชื่อแบรนด์ของเอิงมีตัว S ประกอบอยู่ด้วยทั้งนั้น เอิงไม่เคยคิดแบบที่คุณพยายามกล่าวหาแม้แต่นิดเดียว ตัว S อยู่กับเอิงมานานตั้งแต่เกิด ก่อนจะมีชื่อเสียงซะอีก มันเป็นอักษรตัวแรกของชื่อตัวเอง และพ่อผู้ให้กำเนิดรวมถึงตระกูล มันเป็นเหมือนอักษรแทนใจ ที่ทำให้เอิงรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
เอิงไม่เห็นถึงประโยชน์และเหตุผลที่วันๆ ต้องมานั่งคิดเรื่องการเอาชนะ หรือการประชดประชันคนอื่น ไม่รู้จะทำไปทำไม ทำแล้วเอิงได้อะไร ทำไปจิตใจเอิงก็ไม่มีความสุข ชนะไปแล้วได้อะไร เอิงไม่ได้รู้สึกภูมิใจ หรือพอใจกับเรื่องแบบนั้นแม้แต่นิดเดียวค่ะ เอิงแค่อยากมีความสุขกับการใช้ชีวิต อยู่กับคนที่รักหากคุณลองเปิดใจ ทำความรู้จักเอิงจากตัวเอิงเองแบบจริงๆ ที่ไม่จากคำพูดหรือความคิดของคนอื่นก็จะอาจจะได้รู้จักตัวตนของเอิงจริงๆ ค่ะ” แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ลบสตอรี่นี้ทิ้งไป ซึ่งงานนี้ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ คงต้องรอฟังความจริงจากปากของเจ้าตัวกันอีกที

