แพท ณปภา เล่าเบื้องหลังงานอีเวนท์หมอของขวัญ 9 ปีก่อน บอกตอนนั้นงง จับแยกห้อง-ไม่ยืนคู่-ต้องขึ้นเวทีคนละฝั่ง ยอมรับเคยรู้สึกมากกว่าจิ้น แต่เขาไม่ไม่คิดเหมือนเรา
วันที่ 17 เมษายน 2568 ในรายการแชร์ข่าวสาวสตรอง ทางช่อง ไทยรัฐทีวี ช่วงหนึ่งได้มีการเล่าข่าวของโตโน่ ภาคิน ประเด็นที่หมอของขวัญออกมาแฉเรื่องราวในงานอีเวนท์ที่จ้างงานคู่จิ้น โตโน่ และ แพท ณปภา เมื่อ 9 ปีก่อน แต่ทางโตโน่กลับยื่นเงื่อนไข ไม่ถ่ายรูปคู่ ไม่ยืนติด ถ้ายืนติดคิดอีกราคานึง ทั้งยังแต่งตัวมาไม่ตรงธีมงานที่แจ้ง
แพท ณปภา ซึ่งเป็นพิธีกรของรายการดังกล่าว กล่าวว่า คนอื่นพูดแทนแพทไปหมดแล้ว จริง ๆ ลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว เพราะมัน 9 ปีแล้ว ตอนนั้นปี 2559 เราเลือกที่จะโดนทัวร์ลงไปก่อน เพราะเราเป็นฝ่ายออกตัวก่อนว่าจะไม่จิ้นต่อ อยากเป็นพี่น้องที่แสนดี ทัวร์ก็ไม่แฮปปี้กับแพท ณ โมเมนต์นั้น ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรกับทัวร์ลง เพราะเรามีชีวิตของเรา เราต้องเดินต่อไป
แพทก็เข้าใจคนจิ้นนะ เขาไม่ได้รู้หลังบ้านว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วแพทก็ไม่ได้พูด เราก็แค่พูดสั้น ๆ ว่าเออ เราไม่ได้อะไรกับคนนี้แล้ว ย้อนกลับไปเราไม่ได้ฟีลจิ้น แต่รู้สึกจริง อาจจะไม่เข้าใจเรื่องจิ้นมาก เราก็ถามเขาไปว่า มีความรู้สึกอะไรกับเราไหม ไปในทิศทางเดียวกับเราหรือเปล่า เขาบอกไม่ เขามีคนของเขาอยู่แล้ว เราก็บอกโอเคงั้นไม่ต้องจิ้น เพราะคนที่เขาจิ้น เขาหวังให้มีกระแส เราก็เลยแคนเซิลงานคู่ทั้งหมด ตัดจบ แล้วเราก็ไปคุยกับอีกคนเลย ก็คือพ่อของเรซซิ่ง

“แพทเป็นสไตล์นั้นแต่แฟนคลับก็งง ๆ อยู่ เราก็คิดว่าเดี๋ยวทัวร์ลงก็หายไปเอง เราก็ต้องใช้ชีวิตของเรา เมื่อเราตัดสินใจหยุดและไปคุยกับคนอื่น เราก็ต้องให้เกียรติคนที่เราคุยอยู่ ไม่มาทำอะไรแบบนี้”
ส่วนเรื่องงานคู่ที่หมอของขวัญโพสต์ แพท บอกว่า บนเวทีก็ยังงงว่าหมอของขวัญจะมายืนอยู่ตรงกลางทำไม ทำไมแพทถึงไม่ได้อยู่หลังเวที แพทกลัวคุณหมอเข้าใจว่าแพทเรื่องมาก ทำไมต้องจับแพทมารอที่ร้านกาแฟดี ๆ ทั้งที่เราอยู่หลังเวทีก็ได้ เดี๋ยวจะคิดว่าเราเรื่องเยอะ แล้วตอนขึ้นเวทีเขาก็แจ้งว่าให้ออกคนละฝั่ง เราก็โอเค เพราะไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งค่าตัว เพิ่งมารู้ตอนหลัง ตอนที่จบงานแล้ว ว่าทั้งหมดมันเป็นการรีเควสของอีกฝั่งนึง ว่าไม่สามารถที่จะอยู่ห้องพักเดียวกันได้ ต้องการแยกไปเลย
แพท บอกอีกว่า ที่ผ่านมาเคยมีคนจะพยายามพูดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ว่าทนกระแสนทัวร์ไม่ไหว ก็เงียบกันไปมากกว่า ซึ่งคนก็อาจจะคิดว่ามาพูดทำไมตอนนี้ ทางบุ๊คโกะ พิธีกรอีกคนก็เสริมว่า ในฐานะที่รู้จักแพท ถ้าวันนั้นเราพูด ใครจะเชื่อเรา เพราะเราเป็นสไตล์ตลกโปกฮา เขาจะเชื่อเราไหม มันค่อนข้างพูดยาก
