ปู มัณฑนา ชี้แจงปมร่วมเฟรม บอสพอล ยันไม่ใช่แม่ข่ายดิไอคอนกรุ๊ป แค่ไปคุยเรื่องธุรกิจ ปัดตอบเสียหายหลักล้าน!
ยัคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจฉาวดิไอคอน หลังจากกรณีที่ ปู มัณฑนา ได้มีภาพร่วมเฟรม บอสพอล วรัตน์พล ผู้บริหารบริษัทเครือข่ายธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป โดยเธอออกมายอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งในผู้เสียหาย ต่อมาด้านคนใกล้ชิดของ ปู ได้ปล่อยภาพแชทสนทนาระหว่าง ปู กับ บอสพอล เพื่อพูดคุยทำการขอเงินคืน หลังลงทุนไปปีกว่าและสั่งของกับแม่ข่าย แต่กลับไม่ได้ของตามที่ตกลง

ปู มัณฑนา แจงปมร่วมเฟรม บอสพอล ยันเป็นผู้เสียหายจริง!
ซึ่ง ปู ก็ได้ออกมาชี้แจงปมร่วมเฟรม บอสพอล พร้อมชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว เอาไว้ด้วยว่า เรื่องดิไอคอนเราก็เป็นผู้เสียหาย ปูก็มีถูกชักชวนให้ลงทุนด้วย ถามว่าหลักล้านเลยไหม ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลยค่ะ เงินมีบางส่วนได้คืนค่ะ แต่ส่วนที่ยังไม่ได้คืนคือยังไม่ได้คุยรายละเอียดเรื่องนี้ค่ะ เพราะของปูเข้าไปด้วยงานอีเวนต์ ซึ่งเขามีอีเวนต์เยอะ เราก็ได้ไปพรีเซนต์งาน (เรามองว่าเราเป็นผู้เสียหายใช่ไหม ?) ก็ยังไม่อยากพูดดีกว่าเรื่องนี้ มีโอกาสจะได้คืนไหมก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการคุยอยู่ค่ะ
เราได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วค่ะ ทางเราไม่กังวลใจเลยค่ะ ไม่ใช่แม่ข่าย ไม่ใช่บอสปูค่ะ (หัวเราะ) คนรู้จักกัน ก็ไปทานข้าวคุยงานกัน ตอนนั้นไปในเรื่องการทำงานค่ะ เป็นเรื่องธุรกิจ
ถามว่ามีชักชวนให้เป็นบอสไหม ก็อยู่ในขั้นตอนการคุยค่ะตอนนั้น แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจ พอเกิดเรื่องก็ตกใจค่ะ เพราะว่าเรื่องใหญ่เลย ระยะเวลาตอนนั้นปลายปีที่แล้วค่ะ ก็ไม่ได้กังวลใจว่าเราจะโดนโยง เพราะมีหลักฐานทุกอย่างค่ะ (ถ้าตำรวจต้องการจะเชิญไปให้ปากคำ ?) ยินดีค่ะ ก่อนหน้านี้เราไม่ทราบว่าเขาดำเนินธุรกิจแบบไหน คือถามว่าสนิทขั้นไหน ก็คุยกันเรื่องงานค่ะ แต่ตอนที่ทราบข่าวก็ตกใจค่ะ ความคิดเหมือนอาจารย์นั่นแหละตอนแรกๆ เราไม่คิดว่าจะมีผู้เสียหายเยอะขนาดนี้
อีกทั้งทาง ทนายประมาณ ยังได้เผยต่อว่า เรื่องคดีของดิไอคอนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ของคุณปูเขายังไม่ได้เป็นไปแม่ข่าย ไม่ได้ไปเป็นสมาชิกต่อจากตัวเองเลย แต่มีเบิกมาบางส่วน และบางส่วนก็อยู่ที่เขา ก็เลยมีคืนไปบางส่วน คือคุณปูเขาก็ไปเป็นสมาชิก 2 แสนกว่า เป็นดีลเลอร์ แต่ยังขายไม่เป็น แล้วก็เบิกสินค้ามาใช้เองบางส่วนบ้าง ลูกใช้บ้าง สามีใช้บ้าง แจกเขาบ้าง เพราะขายไม่เป็น และที่เป็นสมาชิกก็เพราะว่าอยากได้งานอีเว้นต์ของเขา เพราะเขาชวนคุยเรื่องงาน เรื่องธุรกิจ แต่พอคุยกันงานก็ยังไม่ได้เดินไปไหนก็เกิดเรื่องแล้ว แค่นั้นเองครับ ส่วนแชทที่คุยกับบอสพอล ก็ให้รู้ว่าเราไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจเขา
