ได้รับการปล่อยตัวมาแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับอดีตนักร้องดัง แพทพาวเวอร์แพท ที่ได้ออกมาเปิดใจกับรายการ คุยแซ่บShow พร้อมเผยถึงรายละเอียดการใช้ชีวิตในเรือนจำ และเปิดใจครั้งแรกว่าเหตุใดถึงได้มีการใช้ยาเสพติด หลังใช้ชีวิตในเรือนจำยาวนานกว่า 16 ปี 8 เดือน
โดยแพทได้เผยว่า “ตอนนี้ยังต้องปรับตัวอยู่พยายามอยู่ เพราะช่วงที่ผ่านมาใช้เวลาอยู่ข้างในนานมาก แล้วเทคโนโลยี สภาพสังคมถนนหนทางมันเปลี่ยนไปหมด ภายในวันเดียวมันค่อนข้างจะเร็วเกินไปและยังตั้งตัวไม่ติดเลย สิ่งที่แปลกใจที่สุดคือสมาร์ทโฟน แล้วก็พวกสื่อโซเชียล ทางครอบครัวเตรียมโทรศัพท์ไว้ให้ พยายามให้เราลองใช้ เริ่มเล่นไลน์ได้แล้วนิดหน่อย เป็นสิ่งที่เราตั้งใจอยากจะทำมานาน เรามีความรู้สึกผิดบางอย่างติดอยู่ในใจของเรา เราอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวเราลำบาก ผมอยากจะขอโทษ แต่ว่ายังไม่มีโอกาสที่จะใกล้ชิดกับครอบครัวขนาดนั้น ตั้งใจไว้ว่าเมื่อพ้นโทษจะต้องกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ แล้วพอไปถึง ณ นาทีนั้นมันไม่ต้องคิดแล้ว มันเป็นความรู้สึกจากโมเม้นต์นั้นเลยเราก้มไปกราบแล้วก็กอดเขา เป็นการขอโทษเขา”
จุดที่ก้าวหรือตัดสินใจพลาดไปใช้ยาเสพติด
“เรื่องที่เข้าคุกสมัยก่อนเป็นเด็กที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงพอสมควร เราเล่นดนตรีชอบดนตรีร็อก มีไอดอลที่เป็นร็อกสตาร์ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้วเราชื่นชอบเขา เหมือนแยกแยะไม่ออก อยากใช้ชีวิตแบบเขา เรื่องความเกเรเรื่องยาเสพติด บวกกับความรู้สึกบางครั้งไม่มีใครเข้าใจเรา คุยกับใครไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะพูดคุยกับใคร เวลามีปัญหาใช้ยาเสพติดเป็นเพื่อน พอมีชุดความคิดแบบนั้นแล้วไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกมันยิ่งถลำไปเรื่อยๆ จนชีวิตพังไป ตอนนั้นก็ทุกวันทุกเวลาที่ลืมตาตื่นขึ้นมา มีทั้งเพื่อนทั้งพี่ครอบครัวก็เป็นห่วงแต่เราไม่ฟัง เราค่อนข้างหัวดื้อแล้วความคิดที่ไม่ถูกต้อง ทีนี้พอเราเสพยา จิตใจไม่เข้มแข็งมีความอ่อนไหวถูกชักจูงได้ง่าย โดยที่เรายังไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการขายทั้งสิ้นแต่ถูกชักจูงว่าเดี๋ยวเอาไปฝากนะแล้วก็ใช้ไปเลย เดี๋ยวผมมาเอา ซึ่งเราก็ติดยา มีของเสพก็โอเค แล้วตำรวจก็ตามเข้ามา ตอนที่เขามาเอาเดี๋ยวเขาจะมาเอา ตำรวจตามมาก็รวบ ตอนนั้นช็อกมาก วินาทีนั้นมันตกใจ มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือฝันไปหรือเปล่า”
ก้าวแรกในเรือนจำเป็นอย่างไร?
“มันค่อนข้างแตกต่างจากหนังโดยสิ้งเชิง ตอนแรกที่ผมเข้าไป ผมไปอยู่ที่บำบัดพิเศษกลาง สำหรับคดียาเสพติด เข้าไปตอนเย็น พอเข้าไปมันเงียบมาก มันไม่มีคนเลย 2 ข้างซ้ายขวาเป็นตึก ผมไม่รู้ว่าเวลาที่ผมไปเป็นเวลาที่เก็บผู้ต้องขังแล้ว อยู่ชั้นบนก็จะมีตะแกรงมองลอดได้ ด้วยความที่เงียบผู้คุมพาเข้าไป เสียงตรวนที่ข้อเท้าก็ดัง คนก็มองลงมาซึ่งเขาคงจะทราบข่าวกันแล้ว ก็ร้องเฮรับทั้ง 2 ข้างทาง ผมตกใจมาก ว่ามันคืออะไร แล้วมันมืดไงตอนนั้น ผมไม่เข้าใจ แล้วก็ค่อยเรียนรู้ไปว่าเป็นตึกนอน มีช่องเล็กๆ ที่เขาจะมองเห็นด้านล่าง”

สุดท้ายอยากบอกอะไร?
“เรื่องเกี่ยวกับตัวอย่างของตัวเองที่เจอมา ผมไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวใคร เกิดกับใคร ผมอยากให้ดูชีวิตผมเป็นบทเรียน เยาวชนควรจะเชื่อฟังเชื่อฟังครอบครัว เชื่อฟังพ่อแม่ เพราะบุคคลเหล่านั้นคือคนที่หวังดีและเป็นห่วงเราที่สุด ใครที่กำลังคิดจะทำสิ่งที่ไม่ดี ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อยากจะให้เลิก มันไม่คุ้มค่ากันกับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณผลประโยชน์อะไรมา ถ้าพลาดเข้าไปอยู่ข้างใน ชีวิตจบ ไม่มีเงินจำนวนใดที่จะมาชดเชยชีวิตที่สูญเสียไปในนั้นได้ อยากขอโอกาสสังคม ผมตั้งใจแล้วว่า ผมจะต้องเป็นคนที่ดีกว่าเดิมให้ได้ ผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมเป็นคนดีกว่าเดิมแล้ว ผมเชื่อว่าคนไทยใจดีครับ และยินดีที่ให้โอกาสกับผม ขอบคุณครับ”
