เปิดบทสัมภาษณ์มุมมองเรื่องความรักที่โตขึ้น ของ ตงตง กฤษกร ก่อนมีข่าวลือควง สาลี่ เดอะสตาร์ 2022 เที่ยวทริปไหว้พระ ที่ฮ่องกง
ก่อนหน้านี้ถูกจับตามองอย่างหนัก สำหรับพระเอกหนุ่ม ตงตง กฤษกร ที่หลังจากเลิกรากับ เบสท์ รักษ์วนีย์ เจ้าตัวก็หายเงียบไปนานพอสมควร กระทั่งล่าสุดมีคนตาดีจับสังเกตว่า หนุ่มตงตง ควงสาว สาลี่ เดอะสตาร์ 2022 ไปเที่ยวทริปไหว้พระขอพรที่ฮ่องกงหรือเปล่า เพราะเห็นว่าทั้งคู่ได้ลงภาพในสตอรี่ไอจีส่วนตัว เป็นรูปภาพที่ดูคล้ายกับอยู่สถานที่เดียวกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้

ตงตง เผยเรื่องหัวใจ ก่อนมีข่าวลือออกเดท ?
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ตงตง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อดัง ถึงเรื่องสถานะหัวใจ และมุมมองในเรื่องความรัก โดยเจ้าตัวได้เผยว่า “โสดครับ ไม่ได้ปิด ไม่ได้พัก เมื่อถึงเวลาก็คงจะมีคนที่เราคิดว่าใช่เข้ามา ณ เวลานั้น อายุไม่ติดเลยจริงๆ อย่างที่บอกขอให้เป็นคนที่จะทำความฝันไปด้วยกันคนที่โตเป็นผู้ใหญ่ คนที่คุยกับเราแล้วเข้าใจ อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วคนแรกที่จะพาไปเจอคือแม่ครับ ต้องผ่านด่านแม่ก่อน แม่ผมเป็นคนง่ายๆ บ้านๆ ไม่ต้องอะไรเยอะเลย สบายๆ สุดท้ายผมว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัวด้วยนะ สุดท้ายผมว่ามันเกี่ยว ฝั่งบ้านเราโอเคไหม ฝั่งบ้านเขาโอเคหรือเปล่า มันก็ต้องดูอะไรหลายๆ อย่าง
มองไว้ว่าสักวันหนึ่งผมอยากจะมีลูก มีครอบครัวที่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เราอยากเจอคนที่เป็นผู้ใหญ่ อยู่กับเราแล้วคุยกันอย่างเข้าใจ ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน ไม่ต้องอะไรเยอะแยะมากมายเลย อยู่ข้างกันในวันที่ท้อ เข้าใจในอาชีพที่เราทำ เข้าใจเราในแบบที่เราเป็น ช่วยกันสร้างอนาคตไปด้วยกัน เราก็มีสิ่งที่วาดฝันไว้แหละ ผมอยากได้คนที่มาทำฝันนั้นด้วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในเส้นทางของผมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันจะมีอุปสรรคฉุดรั้งเอาไว้ แต่จับมือไปด้วยกันโดยที่เราไม่ต้องเอนซ้ายเอนขวา ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งถ้าผมเจอคนๆ นั้นผมจะพาเขาไปหา ไปตามฝันที่ฝันเอาไว้ด้วยกัน

ผมว่าความรักมันไม่จำเป็นต้องไปไขว่คว้า ไม่ต้องไปตามหา เราเคยอยู่ในช่วงตามหา ไขว่คว้าความรัก สุดท้ายมันทำให้เรารู้ว่าความรักไม่จำเป็นต้องไขว่คว้า หรือตามหาอะไร เมื่อถึงเวลาที่มันใช่ มันจะตามหาเราเอง คนที่ใช่ผมเชื่อว่าจะมาในวันที่เราไม่ได้ไปตามหา เมื่อเราพร้อมก็คนๆ นั้นแหละ
ผมจะเข้าเลข 3 แล้ว ผมห่วงตัวเลขเหมือนกันนะ ถ้าผม 40 เขาจะอายุเท่านี้ เราเจอเขาในอายุเท่านี้ สุดท้ายเขาคงอยากจะมีอนาคตไปแต่งงาน ในอายุเท่านี้เราควรจะต้องมีเท่านี้แล้วนะ ณ วันหนึ่งผมอยากจะใช้ชีวิตโดยที่ผมไม่ต้องมากังวลถึงเรื่องเงิน กลัวเงินไม่พอ ลูกอยากเรียนที่นี่เราส่งไม่ได้ ก่อนที่จะมีครอบครัวผมอยากจะพร้อมทุกอย่าง
เราอยากให้อะไรกับคนที่อยู่ข้างตัวโดยที่เขาไม่ต้องลำบากแล้ว ผมอยากทำให้ได้อย่างนั้น ผมแพลนไว้หมดแล้วว่า อายุเท่านี้ผมต้องมีเท่าไหร่ มันไม่มีใครบอกได้หรอกว่าเราจะได้แต่งงานเมื่อไหร่ จะได้เจอคนนั้นเมื่อไหร่ มันไม่มีทางรู้เลย เราต้องมองตัวเราก่อนว่าเราอายุเท่านี้ เมื่อในวันที่เราได้เจอคนๆ หนึ่งแล้วและถ้าเขาพร้อมแล้วแต่เรายังไม่พร้อมมันก็คือไม่ใช่”

ขอบคุณข้อมูลจาก : See True