หนุ่ม กะลา พร้อมทนายเดชา ตั้งโต๊ะแถลงข่าว หลังยื่นฟ้อง จูน เพ็ญ ชุลี ยักยอกเงิน 66 ล้าน ลั่นสเตตเมนต์ไม่เคยโกหก
สืบเนื่องจากกรณีที่ทางนักร้องชื่อดังอย่าง หนุ่ม กะลา ได้เข้าได้พบ ทนายเดชา และยื่นฟ้องคนใกล้ชิด 2 คน ที่ทำการยักยอกเงินของบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัว เป็นจำนวนเงิน 66 ล้านบาท ซึ่ง ทนายเดชาได้ โพสต์ข้อความในเพจ ทนายคลายทุกข์ ว่า “หนุ่มกะลายืนยันมอบหมายให้ทนายเดชายื่นฟ้องคนใกล้ชิดจำนวน 2 คนที่ยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองบริบูรณ์ 365 เป็นเรื่องจริง โดยการโอนเงินของห้างเข้าบัญชีส่วนตัวโดยทุจริต รวม 452 ครั้งเป็นเงิน 66,359,957 บาทที่ศาลแขวงสมุทรปราการ #มีพยานหลักฐานชัดเจนและยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาตรา 91 มาตรา 352 และมาตรา 353 คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดีชู้สาวหรือเรื่องเมียหลวงเมียน้อยแต่อย่างใด นอกจากนี้หนุ่มกะลายังได้มอบหมายให้ทนายเดชาดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายชื่อเสียงผ่านโซเชียลมีเดียหรือออกรายการทีวีต่างๆ เพิ่มเติม”

หนุ่ม กะลาไลฟ์แถลงปมยื่นฟ้องคนใกล้ยักยอกเงิน 66 ล้านบาท
ล่าสุดทางด้าน หนุ่ม กะลา พร้อมด้วย ทนายเดชา ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงปมยื่นฟ้องคนใกล้ชิดยักยอกเงิน 66 ล้านบาท โดยได้เผยว่า
ทนายเดชา : วันนี้อยากมาเปิดใจเรื่องการที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดทองบริบูรณ์ 365 เป็นห้างที่ หนุ่ม กะลา และน้องสาวเป็นหุ้นส่วน เงินได้หายไปจากบัญชีตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2566 เป็นเวลา 9 ปี เงินหายไป 66 ล้านบาท ซึ่งเราได้มีการตรวจสอบสเตตเมนต์ในคดีชู้ ซึ่งภรรยาเขาไปฟ้องและมีการเรียกสเตตเมนต์มา และผมเอาเอกสารในสำนวนนั้นมาทำการตรวจสอบ พบว่ามีเงินหายไปจากบัญชี ซึ่งผมก็ถามว่า หนุ่ม กะลา ทราบไหม เขาบอกว่าไม่ทราบ พอเอาสเตตเมนต์ของห้างทองบริบูรณ์ และสเตตเมนต์ของบัญชีภรรยามาเทียบกัน เงินไปเข้าบัญชีภรรยาหมด สุดท้ายเงินเหลือประมาณ 2-3 แสนบาท

หนุ่ม กะลา : สิบปีที่ผ่านมาไม่ได้มีข้อสังสัยอะไรเกี่ยวกับการเงิน เพราะว่าเราเป็นสามีภรรยากัน เหมือนที่ผ่านมาผมมีหน้าที่หาเงินอย่างเดียว พอถึงจุดที่เราคุยกันว่าจะคืนบัญชี เค้าคืนเงินกลับมา 3 แสน มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า ผมยังต้องรับผิดชอบรายเดือนของเค้าและลูกอีกหลายแสน เกินจำนวนที่เขาคืนผมด้วยซ้ำ แล้วเงินผมไปไหนหมด
เขาไม่เคยให้เหตุผลอะไรผม ผมได้เงินเดือนแค่ 40,000 บาท เราสามารถเช็กสเตตเมนต์ในมือถือได้คร่าวๆ ชื่อมันก็ออกไปเป็นเพ็ญชุลีๆ ทุกครั้งที่เราไปแบงค์กัน ผมต้องเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเบิกเงินได้ แต่ทำไมเงินถึงไปเป็นชื่อเพ็ญชุลีได้ โดยที่ผมไม่ได้เป็นคนเซ็นชื่อ พอผมเห็นสเตตเมนต์ผมก็มาพบกับพี่เดชา ผมบอกว่าผมไม่ได้ต้องการจะเอาเงินคืน
วันนี้ต่อให้ทุกบัญชีต่อให้มี 100 ล้านก็ไม่เอาคืน ผมคุยกับเขาตลอด ผมขอให้เขาผิดหนี้ให้หน่อย ถ้าเป็นไปได้ขอเงินติดตัว 5 ล้านได้ไหม ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ปิดหนี้ให้หน่อย ช่วงที่ผ่านมาจูนพูดตลอดว่าอยากหย่า แต่ผมบอกว่าเรายังหย่ากันไม่ได้ เงินผมอยู่ที่ไหน เราต้องคุยกันเรื่องนี้ก่อน
หลังทราบว่าเงินหายไป ก็ได้คุยกับเขาแต่เขาบอกว่าไม่มีเงิน ส่วนที่ออกมาฟ้องมันคือการที่เค้าจะต้องมาแจงกับผมว่าเงินไปไหน เมื่อเขาสามารถแจงได้หรือไม่ได้ก็ตาม เราจะต้องคุยกันว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้มันบานปลาย ก็ขอแค่เรื่องนั้นแหละ คือปิดหนี้ให้หน่อยแล้วจบกันไปนะ
วันนี้ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคุณไม่มีเงิน คุณมีอยู่จริงๆ และควรเอามาเคลียร์ในส่วนที่ตนต้องรับผิดชอบ บัญชีทองบริบูรณ์มีแบงก์อื่นด้วย แต่เรายังไม่ได้ตรวจสอบ ไม่ได้คาดหวังว่าจะให้เขาฉิบหาย ไม่ได้คิดว่าจะทำสิ่งนั้นกับเขาเลยด้วยซ้ำ แค่ผมเป็นหนี้ แค่เป็นกระแสข่าวมากเท่าไหร่ มันไม่ดีต่องานบันเทิงผมแน่นอน ถ้าไม่เป็นผลดี แล้วจะหาเงินที่ไหนมาเลี้ยงลูก ผมก็อายุเยอะแล้ว สิ่งที่ควรทำที่สุดคือเอาเงินมาปลดหนี้ให้เราซะ แล้วจบกันไปดีกว่า ที่ผ่านมาคุยภายในสุดๆ แล้ว แต่เขากลับให้เพื่อนไปโพสต์ว่าจะบวชเพื่ออยู่กับเมียน้อย
