บอย ปกรณ์ ยันเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์! พร้อมขอฉีกสัญญา คืนเงินค่าจ้าง ยินดีแตกหัก บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ลั่น ขออยู่ฝั่งผู้เสียหาย
กลายเป็นประเด็นสังคมสะเทือนวงการบันเทิงสุดๆ จากกรณีธุรกิจขายตรงบริษัทชื่อดัง The iCon Group (ดิไอคอนกรุ๊ป) เพื่อสร้างดาวไลน์ขายฝันหลอกให้ประชาชนร่วมลงทุน ซึ่งสร้างความเสียหายจำนวนมาก บางรายยังสูญเงินไปหลักล้าน และยังคิดสั้นอยากจบชีวิตตัวเอง ซึ่งมีผู้เสียหายได้ออกมาเรียกร้องผ่านทางเพจดังและทนายต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีนี้ อีกทั้งยังมีนักแสดงชื่อดังหลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์ อาทิ กันต์ กันตถาวร, แซม ยุรนันท์, มิน พีชญา ฯลฯ และบางคนยังมีตำแหน่งในบริษัทด้วย โดยทางพระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ก็มีรายชื่อถูกโยงเอี่ยวด้วยเช่นกัน ล่าสุด บอย ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวบริษัทดังกล่าว ผ่านรายการ โหนกระแส ที่มี หนุ่ม กรรชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

บอย ปกรณ์ ยกเลิกสัญญา บริษัทดิไอคอน ลั่น ขออยู่ฝั่งผู้เสียหาย!
โดยด้าน บอย ได้หอบหลักฐานยืนยันว่า ตัวเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น และมั่นใจไม่เคยถูกเรียกว่าบอส ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า ตั้งแต่เริ่มมีเรื่อง ก็เห็นคอมเมนต์ผู้เสียหาย ส่วนตัวก็ตกใจ เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเราไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับตรงนี้ ความจริงก็รู้สึกไม่ค่อยดี ก่อนหน้านี้ก็ติดต่อมาทางพี่หนุ่มว่า อยากออกมาชี้แจง แต่ขอเวลาเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยก่อน และเมื่อวานอยู่ต่างจังหวัด ต่อมาตัวเอกสารที่เตรียมเสร็จเมื่อเช้า เลยติดต่อหาพี่หนุ่มเมื่อคืน เพื่อขอมาออกรายการเลยดีกว่า เพราะยิ่งมีผู้เสียหายออกมาพูด เราก็เพิ่งได้รับข้อมูลมากขึ้น
ส่วนรู้จักดิไอคอนได้อย่างไรนั้น เนื่องจาก บอสพอล ติดต่อมา รู้จักกับเขาปี 2563 ให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าตัวหนึ่งเกี่ยวกับเวย์โปรตีน มีสัญญา 1 ปี พอครบหนึ่งปี ในช่วงปี 64 ไม่ได้มีการต่อสัญญา เมื่อปี 65 บริษัทก็ติดต่อกลับมาใหม่ให้เป็นพรีเซนเตอร์กาแฟ จากนั้นก็ต่อสัญญาปีต่อปี ในปี 66 และปี 67 โดยในสัญญาระบุชัดเจนว่า ให้ทำหน้าที่เป็นผู้แสดงแบบ คือเป็น พรีเซนเตอร์ โปรโมทสินค้าตัวกาแฟเท่านั้น และภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ ร่วมออกคอนเทนต์และงานอีเวนต์กับเขา แต่ไม่มีเรื่องโมเดลธุรกิจ หรือว่าจ้างให้พูดชักชวนคนเข้ามาร่วมลงทุน แต่มีการพูดในเชิงให้กำลังใจ ซึ่งเรามีสัญญาชัดเจน หากตำรวจต้องการ ยินดีมอบสัญญาให้ไปตรวจสอบ และคนที่เซ็นเอกสารฉบับนี้ก็คือบอสพอล และยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผมไม่ใช่บอส ไม่ใช่ผู้บริหารของบริษัท

ส่วนกรณีที่มีการแชร์คลิปในโลกโซเชียลว่า มีการขึ้นเวทีพูดถึงเรื่องรับรองสินค้า และองค์กร พร้อมทั้งชักจูงคนเข้ามาร่วมลงทุน บอย เผยว่า ทุกครั้งที่เห็นคลิปนี้ รู้สึกว่าผมโง่ดีเหมือนกัน เหมือนกับตอนนั้น ผมพูดไปว่าผมมั่นใจในสิ่งที่ผมพูดว่าคือความจริง มันเป็นเหตุการณ์จริง ผมไปในฐานะตัวแทนพรีเซนเตอร์ของกาแฟ ช่วงก่อนคลิปมีการพูดถึงกาแฟ จากนั้นก็พูดถึงบริษัท ซึ่งมันเป็นสคริปต์ที่เป็นตัวหนังสือและทีมงานบรีพให้พูด ในทำนองเชิงให้กำลังใจ ชักชวนให้คนมาร่วมลงทุน ส่วนใครจะมองว่าแถ ผมรับสภาพได้ ยืนยันว่าข้อเท็จจริงเป็นการพูดตามสคริปต์โดยพิธีกรเป็นคนถาม และผมเป็นคนตอบตามสคริปต์ ซึ่งผมรู้สึกว่าเสียใจกับที่พูดในตรงนั้น และเกิดผลเสียในวันนี้ ผมพลาดเองจริงๆ และไม่มีข้อแก้ตัวอะไร เป็นความผิดของผมเอง ซึ่งผมมารู้ว่ามีผู้เสียหายก็พร้อมกับทุกคน รู้ก็ตกใจมาก
เวลารับงานก็เช็กแล้ว แต่เช็กได้เพียงแค่ขอบเขตที่เราเช็กได้ แต่ในเรื่องกลไกระบบ ไม่เคยเช็กได้ แล้วไม่เคยรู้ เขาก็คงไม่อยากบอกด้วย ซึ่งเราก็เห็นด้วยว่าอาชีพของเราคืออาชีพนักแสดง เราเกิดมาจากประชาชน คนที่เขารักและซัพพอร์ต การที่เรามาสร้างความเชื่อมั่น ทำให้เกิดความเสียหาย เราก็มีส่วนที่ทำให้เกิดความเสียหายจริงๆ และรู้สึกจุกอก

สำหรับวันนี้ ผมอยากมาขอโทษผู้เสียหายทุกคนที่เดือดร้อน จากการที่มาเชื่อใจในสิ่งที่ผมได้พูดออกไป หรือว่าสิ่งที่ผมได้ทำให้ทุกคนมั่นใจในตัวบริษัท และเกิดความเสียหาย ขอโทษจากใจจริงและขอโทษผู้เสียหายทุกคน ถ้าในวันนั้นผมรู้ว่าสิ่งที่พูดบนเวทีมันจะก่อให้เกิดความเสียหาย จะไม่พูด แต่ทั้งหมดเป็นความผิดพลาดของผมเอง ที่ไม่เช็กให้มากกว่านี้ จนเกิดเป็นความเสียหายขึ้นมา ยืนยันว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการการตรวจสอบทางกฎหมายแน่นอน และรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ผมมีส่วนร่วมไปแล้ว และผมก็รู้สึกว่าผมถูกหลอกด้วย คนอาจจะมองว่าผมมาหงายการ์ดเป็นเหยื่อ ผมไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่รู้สึกถูกเป็นเครื่องมือที่ให้คนอื่นมาเชื่อ และเกิดความเสียหายในตรงนี้ด้วย ยินดีหักกับ ดิไอคอน ขอยกเลิกสัญญา และคืนเงินค่าจ้าง พร้อมอยู่ฝั่งผู้เสียหาย
