น้ำเพชร อิสรีย์ เผยหมดเปลือก สาเหตุจบความสัมพันธ์กับ อาไท กลมกิ๊ก สาเหตุอะไรที่ทำให้ไปกันไม่รอด ยอมรับทะเลาะกันบ่อยจนเหนื่อย
ออกมายอมรับว่าเลิกกันได้สักพักแล้ว หลังจากที่ถูกชาวเน็ตจับตามองความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับคู่รักสายฮา อย่าง น้ำเพชร อิสรีย์ และ อาไท กลมกิ๊ก โดยฝ่ายชายได้ออกมาโพสต์ข้อความในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งมีใจความว่า ทั้งคู่มีไลฟ์สไลต์ที่เข้ากันไม่ได้ ยืนยันไม่ได้คบเพราะกระแส หรือเพราะผลประโยชน์แต่อย่างใด ด้านแฟนคลับที่ติดตามและคอยเชียร์ ต่างก็ส่งกำลังใจให้กับทั้งคู่อย่างล้นหลาม

น้ำเพชร อิสรีย์ เปิดสาเหตุเลิก อาไท
ล่าสุด น้ำเพชร ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวความรักที่เพิ่งจบไปเป็นครั้งแรก ในรายการ ความสัมพันธ์ 101 EP.16 พร้อมเปิดสาเหตุที่เลิกรากับ อาไท ว่า “แยกกันตอนนี้แต่มันเป็นเรื่องราวที่ดีนะ เป็นการผ่านการคุยกัน ชีก็ตามดูแลเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ความรักสำหรับเราไม่ใช่แค่อยากไปก็ไป อยากมาก็มา พอเราจะ 27 เรามองอนาคตแล้วนะ เราต้องมีครอบครัวตอนเท่าไร แต่ไม่ได้กดดันตัวเองนะ แต่แค่ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่ มันก็ไม่ควรจะไปเสียเวลามั้ย
ที่ทะเลาะกัน หนูจะไปทำงาน แล้วนางจะขี้หึงมาก แล้ววันนั้นนางว่าง นางก็ขอไปด้วยได้มั้ย เราก็มองว่าเราเพิ่งเข้าวงการ เราก็บอกว่าไม่ต้องไปก็ได้ วันหยุดอยู่บ้านพักผ่อน ชีก็บอกว่า ถ้าไม่ให้ไปก็ไม่ต้องมีหรอกแฟน เราก็แบบ ทำไมมันดูใหญ่จัง แล้วก็ขนของกลับบ้านเลย (ขนของกลับบ้านเลยเหรอ ?) เป็นมาหลายรอบแล้วแม่

เรื่องมันเกิดเมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้ว จนแก๊งพี่ๆ เขารู้แล้วว่าเราทะเลาะกันบ่อย ด้วยความที่เขาเป็นเด็กผู้ชาย เราเป็นผู้หญิงคนนึงก็ทะเลาะกันบ้างลิ้นกับฟัน แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันมันเป็นซีนใหญ่ตลอดเลย ต้องมีการนั่งแกร็บ ขนของอะไรอย่างนี้ ซึ่งกำลังคุยกัน แบบนี้ไม่ไหว มันเหนื่อย ทำไมต้องขนของ ทำไมไม่คุยกัน คือมันเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นเลยนะ ช่วงเพชร 23 ก็ขนของแบบนี้แหละกับแฟนเก่า แต่ตอนนี้เพชรหยุดขนแล้ว แต่แฟนเรายังไม่หยุด
ตอนนี้ห่างกันเพื่อทบทวน แต่เอาจริงๆ คือบอกเลิกกันไปแล้วเมื่อวันนั้นเลย คือผู้หญิงทุกคนมีแฟนไม่ได้อยากเลิกกันหรอกแม่ มันก็อยากจะคบใครสักคนไปนานๆ แต่สุดท้ายแล้วถ้ามันไม่ใช่ มันก็ไม่รู้จะฝืนไปทำไม เป็นเรื่องที่หนูกำลังลังเลอยู่ว่ายังไง เพราะหนูก็สงสารเขา และระยะเวลามันสั้นมากๆ เพิ่งครบรอบ 1 ปีที่รู้จักกัน แต่ที่เขาขอเป็นแฟนคือเดือนตุลาคม มันเร็วไปมากๆ สำหรับหนู และหนูรู้สึกว่าเขาคือเด็กของประชาชน เด็กขายปืนของประชาชน แล้วเราจะไปทำให้เด็กขายปืนของประชาชนเสียใจเหรอ คือหนูคิดไปถึงขั้นนั้นเลย

ความรู้สึกตอนนี้ ยังรักและเป็นห่วงเขา แต่หนูแค่รู้สึกว่าไม่อยากกลับไปโมเมนต์ที่ทะเลาะกันแล้วซีนใหญ่แล้ว ปรับความเข้าใจกันเป็นร้อยๆ ล้านๆ ครั้ง แรกๆ หนูไปบ้านเขา หนูจะเป็นคนนั่งกลับ เรารู้สึกว่ามันอันตรายนะ นั่งกลับดึกๆ เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างมีบ้าน แต่มันก็จะมีวันหยุดเราไปหาเขา แล้วก็มีซีนใหญ่ที่นั่น ถ้าเขามาบ้านหนูเขาก็จะเป็นคนนั่งกลับ คือไม่ได้อยากมีซีนนั่งแกร็บกันแล้ว มันคุยกันได้ หนูไม่ได้โทษว่าเขาไม่ดี และไม่ได้บอกว่าตัวเองดี มันเป็นเรื่องที่คนสองคนคลิ๊กกันไม่ได้สักที แต่เรื่องดีของอาไทคือเขารักเพชรมากๆ รักมากเลยอะ
แต่ก็ไม่มีใครรู้อนาคต อาจจะปรับตัวได้ก็ดี แต่ถ้าปรับไม่ได้ก็คงจบลงด้วยดีเช่นกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องเป็นเรื่องที่ดี แต่ช่วงที่เลิกกันหนูแฮปปี้มาก จริงๆ มันควรจะเศร้า คือหนูได้ไปเที่ยวบรรทัดทอง ได้กินของอร่อยๆ หนูคิดถึงเขานะ หนูอยากพาเขามามาก แต่รู้ว่าเขาไม่ชอบอะไรร้อนๆ แต่หนูได้ไปเรียน ไปเต้น ไปทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ได้ทำ ซึ่งตัวเขาเขาก็รู้ เขาก็บอกว่าที่ผ่านมาเขาเอาเพชรไปทำอะไรอยู่ แต่ตอนที่อยู่กับอาไทเพชรก็มีความสุขมากนะ ด้วยการได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่มันก็มีสิ่งที่เราอยากทำแต่ไม่ได้ทำด้วยเหมือนกัน ช่วงที่ห่างกัน 1 อาทิตย์ก็ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ซึ่งมันก็จอยนะ ถ้าหลังจากคนนี้ไปก็คงไม่มีใคร เพราะยังไม่อยากมีขนาดนั้น มีก็ได้ แต่ไม่ได้เรียกร้องหรือหาที่จะมี เราสามารถดูแลตัว เพราะน้ำเพชรดูแลตัวเองได้”
