Vagabond ในช่วงนี้มีซีรีส์กระแสแรงที่ใกล้จะจบแล้ว (23. พ.ย.) แต่ความดังเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่จริงๆ เพราะว่านี่คือการยกระดับของซีรีส์เกาหลีให้เทียบเคียงกับภาพยนตร์ นั่นคือ Vagabond ในชื่อไทยคือ เจาะแผนลับเครือข่ายนรก
ที่เกาหลีนั้นจะฉายทาง SBS มีจำนวน 32 ตอน (30 นาที) และคนไทยเราจะสามารถดูได้อย่างถูกกฎหมายผ่านทาง Netflix มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ตอน (1 ชั่วโมง) และช่วงนี้ใกล้ที่จะฉาบจบแล้ว ส่วนความแรงของเรื่องนั้นตกอยู่ที่เรตติ้งประมาณ 9-11% สูงสุดที่ 13.9 % ส่วนใครที่ชอบดูแบบรวดเดียวก็รอ 23 พ.ย. 2562 นี้ได้เลย
โดย Vagabond นั่นมีทุนสร้างราว 2 แสน 5 หมื่นล้านวอนหรือประมาณ (656 ล้านบาท) เพราะเรื่องนี้ถ่ายทำในต่างประเทศแทบทั้งเรื่อง งานภาพ ฉากแอ็คชั่น สุดยอดครับเรื่องนี้ ใครที่ชอบแนวๆ Jason Bourne, The man from Nowhere หรือ Anna คงอยากจะลองสัมผัสบ้างเป็นแน่

เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า ชาดัลกอน (อีซึงกิ) สตั้นท์แมนผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้กำกับหนัง โดยมี เฉินหลง และ บรูซลี เป็นฮีโร่ ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูหลานชายที่เป็นที่รัก และตัวของหลานเองก็กลายเป็นนักเทควันโดทีมชาติ แต่ปรากฏว่ามีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น
เพราะหลานชายของชาดัลกอนเองอยู่ในเครื่องบินที่เดินทางไปร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์เกาหลีใต้-โมร็อกโกเกิดระเบิดมีผู้เสียชีวิตทั้งลำรวมถึงลายชายของเขา และเป็นคนเดียวที่ออกมาบอกว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการก่อการร้าย แต่ไม่มีใครเชื่อ
โดยมี โกแฮรี (แบซูจี) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ที่เส้นเรื่องของเธอยังคลุมเครืออยู่ว่าแท้จริงแล้วเธอทำงานให้ใครกันแน่ และได้กลายมาเป็นคู่หูกับพระเองของเขา ซึ่งส่วนนี้ผู้ชมชอบมากเพราะดูแล้วพระ-นางเคมีเข้ากัน พระเอกโคตรเท่และคิดบวก (คือจะบวกทุกคน) บ้าเลือดใจร้อน ส่วนนางเอกดูลุย ๆ แต่มีแอบโก๊ะเยอะอยู่ คุณจะชอบทุกครั้งที่เข้าฉากคู่กัน

อีกเรื่องที่เป็นจุดเด่นคืองานภาพที่สวยงาม การเล่นโทนสี การลำดับภาพ มันเล่นใหญ่ เว่อวัง อลังการระดับหนังใหญ่เรื่องนึงที่มีหลายๆ ตอน พร้อมกับคิวบู๊ที่ดุเดือด นึกว่า อีซึงกิไปเรียนจากเฉินหลงมาเองเพราะมันคล้ายกับ “วิ่งสูฟัด” (The Police Story) อยู่ แต่มันดูลึก และเข้มกว่า เพราะความเป็นละครซีรี่ส์ ทำให้ทีมงานมีโอกาสเล่าเรื่องได้เยอะกว่า
ตัวอีซึงกิเองเล่นแบบไม่ห่วงหล่อพร้อมโทรมตลอดเวลา โชว์ความเท่แบบ “ฮยองคลุกฝุ่น” (ไม่เรียกโอปป้านะครับ นั่นเป็นคำเรียกสำหรับสาวๆ ผมเลยต้องใช้ฮยองเพราะผมเป็นผู้ชาย) ส่วนพล็อตเรื่อง (แบบไม่สปอย) ตัวหนังเล่าเรื่องที่ค่อยๆ ลากคนดูไปหาคำตอบ เล่นกับความอยากรู้ การไว้ใจของคนดู กับตัวละคร และเราก็ได้คำตอบกลายๆว่า เราไว้ใจอะไรใครไม่ได้เลย
ถึงอย่างไรก็ตาม ซีรีส์นี้ก็หาที่ทางใหม่ของตัวเองได้ด้วยการสร้างคาแรกเตอร์แทนนี่ล่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคาแรกเตอร์พระเอกเป็นดาบสองคมพอสมควร เพราะเขามุ่งล้างแค้นจนบางทีก็ทำอะไรไม่มีเหตุผลมากเกินไป หลายครั้งเราหงุดหงิดกับการตัดสินใจที่ไม่มีสติของเขามากกว่าซึ่งแสดงความลึกของตัวบุคคลได้ดีซึ่งยังเป็นพระเอกที่มีความเทาบ้าง และตอนนี้ผมขอตัวไปมันส์ก่อนแล้วกันนะครับ
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.kdramapal.com/suzy-lee-seung-gis-vagabond-draws-1-8-million-viewers-with-action-packed-premiere/
https://www.cosmo.ph/entertainment/k-drama-review-vagabond-a1204-20191102-lfrm
https://www.dramamilk.com/heres-what-happened-vagabond-episode-by-episode-series-recap/