ใครเป็นบ้าง ง่วงมาก! เพลียสุดๆ รู้สึกนอนไม่เพียงพอตื่นมาแล้วง่วงเหมือนเดิม รวม 6 เคล็ดไม่ลับตื่นมาสดใส พร้อมสู้งาน-เรียน
เป็นปัญหาที่หลายๆ คนก็ต้องเคยเจอนั่นก็คือ การนอนไม่พอ ตื่นมาแล้วนอนไม่พอ งงมาก บางทีนอนครบ 6 ชั่วโมงเลยนะ บางวันก็นอนเร็วแล้วนะ ไม่ได้นอนดึกเลย ทั้งๆ ที่เราก็นอนเต็มอิ่มแล้ว แต่ทำไมตื่นมาก็ยังไม่สดชื่นเลย ตื่นแล้วกลับรู้สึกง่วง รู้สึกเหนื่อย ระหว่างวันเหนื่อยๆ ช้าๆ ไม่กระปรี้กระเปร่า งั้นต้องลองเทคนิคนี้ 6 เคล็ดไม่ลับตื่นมาสดใส พร้อมสู้งาน-เรียน

6 เคล็ดไม่ลับตื่นมาสดใส พร้อมสู้งาน-เรียน
1. ปรับเวลาการนอนของตัวเอง
วิธีที่ดีที่สุดคือการนอนเวลาเดิมตลอดในทุกๆ วัน และอย่านอนให้ดึกจนเกินไป พยายามรีบนอนในช่วง 4 ทุ่มถึง เที่ยงคืนเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มทำงาน ห้ามกินคาเฟอีนหลัง 4 โยงเย็นเด็ดขาด เพราะกาแฟส่งผลให้เราตาตื่นได้ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
2. ก่อนนอน 1 ชม. ให้ทำสิ่งที่อยากทำให้ครบ
หลังจากเหนื่อยล้าจากการเรียน การทำงานมาทั้งวัน ก่อนนอนควรให้ทั้งสมอง สายตา และร่างกายได้พักผ่อนจากโลกอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะฟังเพลง อ่านหนังสือ เขียนไดอารี่ วาดรูป ทำกิจกรรมที่ชอบทำ ที่ได้พักผ่อนก่อนนอน ทำได้ทุกอย่างยกเว้นเล่นโทรศัพท์มือถือ เพราะเวลาเราเจอเรื่องอะไรที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลก เรื่องดราม่า อาจจะทำให้ร่างกายของเราตื่นขึ้นมาและเป็นสาเหตุที่ทำให้เรานอนไม่หลับนั้นเอง
3. ห้ามเลื่อนนาฬิกาปลุกเด็ดขาด
เดี๋ยวแป๊บ ขออีก 5 นาที แต่พอรู้ตัวอีกทีก็จะ 8 โมงแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำตามยากที่สุดแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนเคยเป็นกัน ยิ่งถ้าวันไหนก่อนนอนเหนื่อยมากๆ หรือนอนดึกมากๆ ยิ่งไม่อยากตื่น ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตั้งนาฬิกาปลุกแค่ครั้งเดียวที่เป็นเวลาที่เราต้องตื่นจริงๆ ไม่ต้องเผื่อเวลาไว้ เพราะจะทำให้ร่างกายเราจำเวลาที่ต้องตื่นได้อัตโนมัติ ถึงแม้จะเผลอนอนดึกแต่ไหน แต่ร่างกายจะปลุกให้เราตื่นเองได้ทันทีเลย
4. กระตุ้นประสาทสัมผัสให้ทุกส่วนในร่างกายตื่น
วิธีที่ง่ายที่สุดที่ทำให้ร่ายกายของเราตื่นตัวก็คือการกระตุ้นประสาทสัมผัสไม่ว่าจะเป็นตา หู จมูก ปากให้ตื่นตัวพร้อมๆ กัน ยิ่งหลายส่วนตื่นตัวมากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะเผลอหลับก็น้อยลงไปด้วย เริ่มจากพอตื่นนอนปั๊บ ให้เปิดไฟทั่วทั้งห้อง รวมทั้งเปิดเพลงแจ๊ส ฮิปฮอป หรือร็อคจะทำให้เพื่อนๆ ตื่นตัวเร็วยิ่งขึ้น ถ้าปวดตาหรือยังเบลอๆ อยู่ให้มองที่ผนังเพื่อปรับโฟกัส แล้วไปล้างหน้ากันได้เลย
5.ถ้าเราเชื่อว่าไม่ง่วง ร่ายกายก็จะไม่ง่วง
นอกจากกระตุ้นส่วนต่างๆ ให้ตื่นตัวแล้ว เรายังสามารถหลอกล่อให้รู้สึกตื่นตัวมากกว่าความเป็นจริงได้ เพียงแค่ขยับร่างกายไปมา จับติ่งหู นวดมือทั้งสองข้าง กำมือเป็นหมัดแล้วคลายออก ทำแบบนี้ 10 ครั้ง หรือถ้าพอจะเวลาว่างการเดินออกไปรับแดด รับลมสัก 10 นาทีจะทำให้ไม่ง่วงพร้อมเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่นเลย
6. งีบหลับตอนกลางวันสักหน่อย
ยิ่งกินอิ่มก็ยิ่งง่วง แต่ถ้าฝืนมากเกินไปเพื่อนๆ จะเผลอหลับกันในคาบแทนนะ ดังนั้นหลังกินเสร็จถ้ารู้สึกง่วงแล้วให้นั่งหลับได้เลย แค่ 10-15 นาทีก็จะช่วยให้เพื่อนๆ กระปรี้กระเปร่ามีสมาธิโฟกัสกับการเรียนคาบบ่ายได้มากขึ้นด้วย อย่าลืมตั้งปลุกนะ เดี๋ยวเผลอนอนเพลินโดนเช็กขาดไม่รู้ด้วย
นอกจาก 6 เคล็ดลับที่เรารวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว อย่าลืมย้อนกลับไปหาต้นเหตุของอาการตื่นเร็วแล้วง่วงด้วย เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ง่วงนอนในตอนเช้ากันด้วย เช่น นอนน้อย นอนดึก นอนไม่เพียงพอ เครียดกับงาน หรือกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ตื่นเช้าแล้วง่วงได้เหมือนกัน
แหล่งที่มา Dek-d
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY