เตือนสาวๆ โรคยอดฮิตในผู้หญิง ถุงน้ำในรังไข่ เกิดจากอะไร? เป็นแล้วอันตรายหรือไม่ แล้วจะมีอาการอย่างไรบ้างมาดูเลย!
ถุงน้ำหรือซีสต์ นั้นสามารถเกิดได้ทุกอวัยวะในร่างกายเรา เช่น ถุงน้ำใต้ผิวหนัง ข้อมือ หลังเข่า หรือแม้กระทั่งในสมอง ถุงน้ำรังไข่ คือ ภาวะที่มีถุงน้ำเกิดขึ้นทั้งภายในรังไข่และบริเวณรอบๆ รังไข่ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ทั้งชนิดถุงน้ำธรรมดาที่ไม่มีความอันตราย และถุงน้ำชนิดอันตรายอย่างมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่ผู้หญิงสามารถเป็นได้ในทุกช่วงอายุ ดังนั้นเราควรรู้จักโรคนี้เอาไว้ ถ้าหากมีอาการจะได้รับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

โรคถุงน้ำรังไข่ยังมีหลายชนิด
ซึ่งต้องได้รับการตรวจละเอียดอีกครั้ง เพื่อดูว่าความผิดปกตินั้นจัดอยู่ในชนิดไหน อาศัยการตรวจดูภายในรังไข่ว่าเป็นน้ำใสๆ หรือมีก้อนเนื้อรวมอยู่ด้วย หากเป็นน้ำใสๆ มักไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้ามีก้อนเนื้อรวมอยู่ด้วย เป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งได้ และลักษณะของน้ำภายในรังไข่ก็สามารถจำแนกชนิดของโรคได้เช่นกัน ลักษณะของน้ำภายในรังไข่จะทั้งน้ำเหลวใส น้ำที่มีลักษณะเป็นวุ้น หรือน้ำที่มีลักษณะหนืด เป็นต้น ที่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นถุงน้ำลักษณะของเยื่อบุผิว หรือถุงน้ำลักษณะของช็อกโกแลตซีสต์ ขึ้นอยู่กับเซลล์ชนิดของตัวถุงน้ำที่เกิดขึ้น
หากเป็นถุงน้ำที่มีลักษณะโปร่งใสไม่มีผนังกั้น ไม่ใช่มะเร็งแน่นอน และถ้าหากมีผนังกั้นเล็กน้อย ภายในถุงมีน้ำในลักษณะหนืด แต่ไม่มีก้อนเนื้อ ก็อาจจะยังไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้าหากมีก้อนเนื้อปนอยู่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดมะเร็ง
อาการของโรคถุงน้ำรังไข่
- ขึ้นอยู่กับชนิดของถุงน้ำที่เกิดขึ้น บางรายอาจไม่มีอาการ หรือบางรายมีอาการเล็กน้อย
- บางรายสามารถคลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- ขนาดของก้อนใหญ่ประมาณลูกส้มโอ
- บางรายมีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาผิดปกติ จากการที่ไข่ไม่ตก เช่น ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย
- บางรายอ้วนขึ้น มีสิว ท้องอืด แน่นท้อง รวมถึงมีตัวก้อน เช่น มะเร็งแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ทำให้ท้องขยายใหญ่หรือท้องมาน เป็นต้น
สาเหตุของการเกิดโรค
ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานที่ผิดปกติของตัวรังไข่เอง อาจเกิดการแบ่งตัวของเซลล์บริเวณรังไข่ที่มีการพัฒนามากขึ้นกลายเป็นถุงน้ำรังไข่ หรืออีกประการคือเนื้อผิวปกติมีการยุบตัวเข้าไปทำให้เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่หรือที่เรียกว่าช็อกโกแลตซีสต์ รวมถึงการที่เนื้อผิวยุบตัวเข้าไปอาจทำให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่ผิดพลาดและพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้อีกด้วย นอกจากนี้ในเรื่องของกรรมพันธุ์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรค
การสังเกตตัวเอง
- หากมีอาการปวดหน่วงท้องน้อย ปวดประจำเดือน ท้องขยายใหญ่ขึ้น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง อ้วนขึ้นหรือท้องขยายใหญ่ขึ้นแต่รับประทานเท่าเดิม ให้สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโรคถุงน้ำรังไข่ได้
- ในผู้ที่มีพฤติกรรมการ ทานยาคุมหรือฉีดยาคุม เป็นเวลานาน จะช่วยยับยั้งการตกไข่และป้องกันการเกิดถุงน้ำรังไข่ได้ วิธีนี้เป็นการขัดขวางการทำงานในการเกิดถุงน้ำรังไข่ตามปกติ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ และถ้าหากทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปียังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งรังไข่ได้ด้วย ซึ่งเป็นชนิดเยื่อบุผิวที่มักพบในกลุ่มคนที่มีอายุเยอะ
หากมีถุงน้ำรังไข่แล้วไม่รักษา
จะมีความอันตรายต่างกันไปในแต่ละชนิดของถุงน้ำและขนาดของถุงน้ำ หากเป็นถุงน้ำรังไข่ปกติ คือเป็นถุงน้ำที่ทำงานตามรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่ถุงน้ำนี้ก็จะสลายไปเอง ไม่มีความอันตรายและไม่จำเป็นต้องรักษา
แต่ถ้าเป็นถุงน้ำผิดปกติอย่างช็อกโกแลตซีสต์หรือตัวถุงน้ำรังไข่ที่ไม่ใช่มะเร็ง หากไม่ทำการรักษาในกรณีของช็อกโกแลตซีสต์ จะส่งผลให้ก้อนช็อกโกแลตซีสต์มีขนาดใหญ่ขึ้น และไปทำลายเนื้อรังไข่ที่ปกติ ส่งผลให้เข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร หรือในอีกกรณีหากก้อนรังไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น จะมีความเสี่ยงต่อการปริ แตก รั่ว หรือบิดขั้วบริเวณปีกมดลูก และเพิ่มความเสี่ยงต่อตัวก้อนได้ หากมีขนาดใหญ่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่ถ้าหากตัวก้อนมีขนาดเล็ก ในบางรายอาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของการตกไข่ กรณีนี้สามารถทานยาคุมเพื่อช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็สามารถหายเป็นปกติได้
แหล่งที่มา rama.mahidol
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY