วัตถุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ตัวร้าย! ห้ามเข้าใกล้ ยิ่งใกล้ยิ่งอันตราย ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพยังไง และมีวิธีการป้องกันยังไงบ้าง
อันตรายมาก! จากเหตุการณ์ ท่อบรรจุสาร ซีเซียม-137 จากโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานไอน้ำที่ จ.ปราจีนบุรี หายปริศนา ซึ่งสารนี้เป็นสารที่อันตรายอย่างมากและเป็นพิษต่อร่างกายหลายระบบ ซึ่งล่าสุดคาดว่ามีการแปรรูปถลุงเป็นฝุ่นแดงไปแล้ว ซึ่งฝุ่นแดงนี้หมายถึง เป็นฝุ่นที่มีสารปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี แน่นอนว่าหลายๆ คนคงตื่นตัวไม่ใช่น้อย ซึ่งทางกรมควบคุมโรคก็ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวว่าสารนี้สามารถทำอะไรร่างกายเราได้บ้าง

อาการเมื่อสัมผัสสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137
เมื่อสัมผัสสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 อาการที่พบคือ
- ไข้
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- ถ่ายเหลว
- ผิวหนังบริเวณที่โดนรังสีจะเกิดแผลไหม้พุพอง
ในกรณีสัมผัสปริมาณมาก ส่งผลกระทบต่อระบบเลือด กดไขกระดูก ระบบประสาท ชักเกร็ง และอาจเสียชีวิตได้ และนอกจากนี้ก็ยังมีอาการตามระบบต่างๆ เช่น
กลุ่มอาการระบบเลือด
อาการแบ่งได้ 4 ระยะ
- ระยะแรก (Prodromal stage) : คลื่นส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เริ่มมีอาการได้ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงถึง 2 วันหลังโดนรังสี
อาการเป็นได้นานเป็นนาทีถึงหลายๆ วัน - ระยะสอง (Latent stage) : เซลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูกตายไปเรื่อยๆ ระยะนี้จะเป็นอยู่ตั้งแต่ สัปดาห์แรกถึง 6 สัปดาห์ผู้ป่วยอาจดูปกติหรือไม่มีอาการ
- ระยะสาม (Manijfest illness stage) : เบื่ออาหาร มีไข้ อ่อนเพลีย ปริมาณเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือดทั้งหมดลดระดับลงเรื่อยๆ ในเวลาหลายๆสัปดาห์ และจะเสียชีวิตในเวลา 2-3 เดือน ผู้ป่วยมักเสียชีวิตจาก
การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเลือดออกมากและไม่สามารถหยุดได้ - ระยะพื้นตัว (Recovey) : ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากภาวะที่ไขกระดูกโดนกด โดยจะดีขึ้นได้จากตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ถึง 2 ปี (ผู้ป่วยราวครึ่งหนึ่งจะเสียชีวิตที่ 60 วัน หากได้รับรังสี 2.5-5 Gray – LD s0/60 = 2.5-5 Gray)
กลุ่มอาการระบบทางเดินอาหาร
- ระยะแรก (Prodromal stage) : คลื่นส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องเสีย เริ่มมีอาการภายใน 2-3 ชั่วโมง
หลังโดนรังสี - ระยะสอง (Latent stage) : เชลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูกและเยื่อบุทางเดินอาหารตายไปเรื่อยๆ ระยะนี้ผู้ป่วยอาจดูปกติ หรือไม่มีอาการ ระยะนี้จะไม่เกิน 1 สัปดาห์
- ระยะสาม (Manjfest illness stage) : เบื่ออาหาร มีไข้ อ่อนเพลีย ท้องเสีย ขาดน้ำ เกลือแร่ต่างๆ ผิดปกติ มักเสียชีวิต ในเวลา 2 สัปดาห์ จากการติดเชื้อ ขาดน้ำ เกลือแร่ผิดปกติ
- ระยะพื้นตัว (Recovery) : เสียชีวิตทั้งหมดหากได้รังสีเกิน 10 Gray (LD 100 = 10 Gray)
กลุ่มอาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ระยะแรก (Prodromal stage) : วุ่นวายไม่ค่อยรู้ตัว คลื่นส้อาเจียนถ่ายเหลวอย่างมาก ผิวไหม้ เกิดในเวลาเป็นนาที
- ระยะสอง (Latent stage) : กลับมามีอาการปกติได้ แต่มักไม่กี่ชั่วโมง
- ระยะสาม (Manifest illness stage) : อาเจียนท้องเสียมากๆอีกครั้ง ร่วมกับมีซัก โคม่า มักเกิดภายใน 5-6 ชั่วโมง
หลังโดนรังสี และมักเสียชีวิตใน 3 วัน
กลุ่มอาการด้านผิวหนัง
- เกิดการอักเสบ แดง มีการหลุดลอก
- ผมหรือขนจะหลุดร่วง
- อาการแดงของผิวหนังอาจเกิดได้ตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงหลังโดนรังสี แล้วอาจเข้าสู่ช่วงที่ผิวหนังดูค่อนข้างปกติจากนั้นผิวจะกลับมาแดงขึ้นมากๆ อีก ร่วมกับมีถุงน้ำและแผลอักเสบ (ulcer) ต่อมาอาจจะดีขึ้น
- นำไปสู่ผิวหนังเสียหายถาวร เช่น ต่อมเหงื่อโดนทำลาย ผิวหนังตาย มีการอักเสบเรื้อรัง เกิดพังผืด หรือผิวหนังฝ่อ
ข้อควรปฏิบัติหลังการสัมผัสสาร
- ลดการปนเปื้อน โดยล้างตาให้น้ำไหลผ่านจากหัวตาไปทางหารตาด้วยน้ำสะอาด ล้างมือ อาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ถุงปิดป่ากให้สนิทเพื่อตรวจสอบว่ามีการปนเปื้อนสารกัมมันตรีงสีหรือไม่
- ไปลงทะเบียนยังหน่วยงานที่กำหนด ให้มีการจัดทำทะเบียนผู้สัมผัสหรืออยู่ในเหตุการณ์เพื่อการเฝ้าระวังสุขภาพและควบคุมการแพร่กระจายของกัมมันตรังสี
- ห้ามหยิบจับวัตถุทุกชนิด ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามนำมือสัมผัสบริเวณภายในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้ให้เป็นพื้นที่อันตราย
วิธีการป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารกัมมันตรังสีหรือกล่องเหล็กต้องสงสัย
- ถ้าอยู่ในที่เกิดเหตุให้ไปลงทะเบียนผู้สัมผัสสารกัมมันตรังสียังหน่วยงานที่กำหนด
- รวบรวมสิ่งของหรือเสื้อผ้าที่คาดว่าอาจมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบก่อนนำไปใช้
- ควรล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
- ติดตามข้อมูลสถานการณ์การเกิดเหตุ และปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด
แหล่งที่มา rama.mahidol กรมควบคุมโรค
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY