เปิด สรรพคุณทางยา ใบกระท่อม มีอะไรบ้าง ประโยชน์ทางการแพทย์ และผลข้างเคียง หลังปลดล็อคจากยาเสพติดให้โทษ
พืชกระท่อม เป็นพืชที่มีการใช้เป็นยามาอย่างยาวนานแต่โบราณ ใช้ใบกระท่อมเพื่อรักษาการติดเชื้อในลำไส้ บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดไข้ บรรเทาอาการไอและท้องร่วง โดยใช้ใบสดหรือใบแห้งนำมาเคี้ยว สูบ หรือชงเป็นน้ำชา
กระท่อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 15 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่ ปลายแหลม โคนป้าน หูใบระหว่างก้านใบเป็นแผ่นคล้ายใบ ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจุกแน่น ออกตามปลายกิ่ง มี 1-3 ช่อ ช่อกลางสั้นมาก แต่ละช่อประกอบด้วยดอกสีเหลือง กลีบเลี้ยงเป็นหลอดสั้น ปลายมี 5 แฉก กลีบดอกเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 5 หยัก เมล็ดมีปีก
กระท่อมเป็นพืชที่อยู่ในสกุล Mitragyna หอพรรณไม้ กรมป่าไม้ รายงานไว้ว่าพืชในสกุลนี้ในประเทศไทยมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่
- Mitragyna diversifolia (Wall ex G. Don) Havil. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระท่อมขี้หมู กระทุ่มดง กระทุ่มนำ ท่อมขี้หมู ตุ้มน้ำ
- Mitragyna hirsuta Havil. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระทุ่มโคก ตุ้มเขา ทุ่มพาย
- Mitragyna parvifolia Korth. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระทุ่มใบเล็ก
- Mitragyna rotundifolia (Roxb.) Kuntze มีชื่อท้องถิ่นว่า กระทุ่มเนิน แก่นเหลือง ตุ้มกว้าว
- Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระท่อม ท่อม อีถ่าง
การศึกษาพบว่าใบกระท่อมมีสารสำคัญ เรียกว่า ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressant) เช่นเดียวกับยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน เช่น สารไซโลไซบิน (psilocybin) ที่พบในเห็ดขี้ควาย LSD และยาบ้า ทำให้รู้สึกชา กดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงานทำให้สามารถทำงานได้นานและทนมากขึ้นและทนต่อความร้อนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
จึงไม่ต้องแปลกใจที่สังคมเกษตรแต่ก่อนเก่า ก่อนที่กระท่อมจะกลายเป็นยาเสพติด ผู้ใช้แรงงานในท้องไร่ท้องนา หรือแม้แต่ทหารเดินทัพออกศึกในอดีตก็ได้กระท่อมเสริมพลัง กินใบกระท่อมช่วยให้ทำงานกลางแจ้งได้ทนนานขึ้นนั่นเอง
สรรพคุณทางยา – แก้ปวดท้อง , แก้บิด , แก้ท้องเสีย , แก้ปวดเมื่อย , แก้เบาหวาน และแก้ไข้ รวมทั้งในงานวิจัยของชาวอังกฤษและญี่ปุ่น ที่ตีพิมพ์รายงานวิชาการระบุว่า สารธรรมชาติในใบกระท่อม สามารถแก้ปวด ลดไข้ มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นยาแก้ปวดตัวใหม่ได้ โดยไม่มีฤทธิ์เสพติดเหมือนฝิ่น
ในแง่ประวัติศาสตร์ ใบกระท่อมคือเป็นยุทธปัจจัยหนึ่งในการออกรบของทหาร เพราะทำให้ขยัน นอนหลับดี สามารถทำงานทนแดด-ทนลม รวมทั้งใช้กินเพื่อต้องการเลิกฝิ่นได้ นอกจากนี้ยังใช้รับแขกเหมือนหมากพลู และใช้กินกับน้ำชา โดยผู้ที่เคยกินใบกระท่อมเป็นประจำ ต่างบอกว่า เลิกง่ายกว่า “หมาก”
ฤทธิ์ทางเภสัชของ ไมทราไจนีน (Mitragynine) ที่ลดอาการเจ็บปวดได้ เมื่อให้กินทางปากในขนาด 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งมีฤทธิ์เทียบเท่ากับการได้รับมอร์ฟีนในขนาด 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
กระท่อมจึงเป็นยาที่นำมาใช้เพื่อลดอาการขาดยาจากสิ่งเสพติดอื่น เช่น ฝิ่นและมอร์ฟีน แต่จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่ามอร์ฟีนเมื่อใช้ในระยะเวลาที่จำกัด กระท่อมยังนำมาใช้แทนแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เพื่อเพิ่มพละกำลัง

ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีการใช้กระท่อมในลักษณะนี้ในหลายประเทศทั่วโลก การใช้ของต่างประเทศพบว่า ใช้เป็นยารักษาอาการเรื้อรังต่างๆ เช่น ช่วยลดความดันโลหิต บรรเทาเบาหวาน แก้ไอ แก้ระบบย่อยอาหารไม่ปกติ เช่น ท้องเสีย บิดมีตัว ปวดท้องและกำจัดพยาธิในเด็ก และใช้เป็นการกระตุ้นร่างกายให้ทำงานหนักได้
และมีรายงานจากต่างประเทศกล่าวถึงการเริ่มศึกษาใบกระท่อมช่วย อาการซึมเศร้า โรควิตกกังวลและอื่นๆ อีกหลายโรคด้วย และข่าวว่าเพื่อนบ้านเราทั้งเวียดนามและเมียนมา กำลังปลูกกระท่อมกันมากมาย
ความรู้พื้นบ้านของเรามีการนำใบกระท่อมตำพอกแผลภายนอก เช่น ใบกระท่อมนำมาย่างร่วมกับใบหนาด (Blumea balsamifera (L.) DC.) ใบยอบ้าน (Morinda citrifolia L.) และใบเพกา (Oroxylum indicum (L.) Kurz) ตำรวมกัน นำมาพอกในตำแหน่งที่อยู่ขอม้าม แก้ม้ามโต (กรณีม้ามโต ทดสอบได้จากการเอามือจับบริเวณผิวหนังที่ตำแหน่งของม้าม จะรู้สึกว่าร้อน)
ข้อควรระวัง การกินใบกระท่อมมากๆ เป็นระยะเวลานานจะทำให้เม็ดสีขึ้นที่บริเวณผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีผิวคล้ำและเข้มขึ้น และถ้ากินกระท่อมโดยไม่ได้รูดเอาก้านใบออกจากตัวใบ จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “ถุงท่อม” ในลำไส้ได้
เนื่องจากก้านใบและใบของกระท่อมไม่สามารถย่อยได้ จึงตกตะกอนติดค้างอยู่ภายในลำไส้ขับถ่ายออกมาไม่ได้ เกิดพังผืดขึ้นมาหุ้มรัดอยู่โดยรอบก้อนกากกระท่อมนั้น ทำให้เกิดเป็นก้อนถุงขึ้นในลำไส้ จึงไม่ควรกินกากใบประท่อม และบางรายกินมากไปทำให้เกิดการอาเจียนและท้องเสีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด บางรายอาจมีอาการทางจิตได้
กระท่อมยังมีประโยชน์ทางการแพทย์อีกมาก เพราะกระท่อมไม่ใช่ยาเสพติด กระท่อม คือ พืชยา จึงควรมีกฎหมายมากำกับและพัฒนาเป็นการเฉพาะนั่นเอง