อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว รักษาได้ อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาชีวิตคู่อีกต่อไป! ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหาเรื่อง สมรรถภาพทางเพศ ไม่ใช่เรื่องน่าขำ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะเข้าปรึกษาแพทย์ ซึ่งภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย หมายถึง ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ หรือไม่สามารถรักษาการแข็งตัวไว้ได้นานขณะมีเพศสัมพันธ์ เช่น บางคนอาจจะไม่แข็งตัว บางคนอาจจะหลั่งเร็ว บางคนอาจจะมีอาการปวดเวลาหลั่ง เป็นต้น
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction)
ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศไม่เพียงพอ ภาวะนี้มักจะพบตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้มีมากถึง 70% นอกเหนือจากนั้นอาจมีสาเหตุมาจากการผ่าตัด ภาวะฮอร์โมนของร่างกาย การรับประทานยา และปัญหาจากระบบประสาท เป็นต้น รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง อัมพฤก อัมพาต โรคเกี่ยวกับระบบเส้นเลือด โรคเหล่านี้ทำให้เกิดอาการเสื่อมได้ทั้งสิ้น เนื่องจากสุขภาพทางกายไม่แข็งแรง
ผู้ชายจะเสื่อมสมรรถภาพเมื่ออายุเท่าไหร่
- ชายอายุต่ำกว่า 40 ปี – พบประมาณ 5 %
- ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี – พบประมาณ 50 %

ระดับการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- อาการน้อย คือ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จเกือบทุกครั้ง
- อาการปานกลาง คือ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จประมาณครึ่งหนึ่ง
- อาการรุนแรง คือ แทบจะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จเลย
การป้องกัน ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีเวลาพักผ่อน ออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงภาวะเครียด เป็นต้น
การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ทั้งแบบไม่ใช้ยาและการใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งมีวิธีการรักษาหลักอยู่ 4 วิธี ได้แก่
- ยากลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ phosphodiesterase type 5 เป็นทางเลือกแรกในการรักษาผู้ที่ไม่มีข้อห้ามใช้ (ผู้ที่ห้ามใช้คือ ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยากลุ่ม nitrate)อาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดศีรษะ การมองเห็นผิดปกติ อาการร้อนวูบวาบและปวดเมื่อยตามตัว
- การรักษาด้วยยาฉีดเข้าที่องคชาต โดยฉีดเข้าอวัยวะเพศโดยตรง ยาชนิดนี้เป็นยาที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพื่อนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จนเกิดการแข็งตัว และจะแข็งได้นาน 30 – 60 นาที
- การรักษาด้วยยาสอดเข้าทางท่อปัสสาวะ ใช้ตัวยาเดียวกับที่ใช้ฉีดเข้าอวัยวะเพศ แต่เป็นรูปแบบเม็ดเล็ก ๆ สอดเข้าทางท่อปัสสาวะ หลังจากคลึงอวัยวะเพศประมาณ 5 – 10 นาที ยาจะซึมเข้าอวัยวะเพศและทำให้แข็งตัวขึ้นมาได้
- การรักษาด้วยกระบอกสุญญากาศ โดยนำกระบอกสุญญากาศสวมเข้าที่อวัยวะเพศชายหลังทำการปั๊ม อากาศจะถูกปั๊มออกจากท่อพลาสติกที่สวมเข้าไปภายในเวลา 2-3 นาที เลือดจะถูกดึงให้เข้าไปที่เนื้อเยื่อแทน ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่แล้ว จึงถอดกระบอกสูญญากาศออก แล้วนำยางรัดที่ฐานของอวัยวะเพศชาย เพื่อช่วยให้ยังคงการแข็งตัวต่อไปได้
- การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม
การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย Shock Wave
Shock Wave for Erectile Dysfunction (ED)
เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อันเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่เพียงพอขณะมีเพศสัมพันธ์ ด้วย Shock Wave Therapy คือ การใช้คลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอก (Low-Intensity Extracorporeal Shock Wave Therapy : LI-ESWT) ไปกระตุ้นบนอวัยวะเพศของผู้ป่วย เป็นผลทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่เพิ่มขึ้นในอวัยวะเพศจากหลอดเลือดเดิม เมื่อหลอดเลือดในอวัยวะเพศทำงานได้ดีขึ้น การตื่นตัวและการขยายของอวัยวะเพศจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ซึ่งมีความปลอดภัยสูง ปลอดภัยจากผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยการใช้ยา
โปรแกรมรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย Shock Wave
Shock Wave for ED Program
– เข้ารับการรักษา 2-3 สัปดาห์ต่อเนื่องครบ 8 ครั้ง
– ระยะเวลาในการรักษาครั้งละประมาณ 6-10 นาที
โดยผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกเบาๆ บริเวณอวัยวะเพศขณะรักษา ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถดำเนินชีวิตหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติหลังจากการรักษา เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ปราศจากผลข้างเคียง จึงเหมาะสมกับผู้ที่ไม่ต้องการรักษาด้วยการรับประทานยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยา หรือผู้ที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
การรักษาด้วย shockwave เหมาะกับใครบ้าง
- ที่ไม่ต้องการรักษาด้วยการรับประทานยา
- ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยา หรือผู้ที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
- ผู้ที่ตอบสนองต่อการักษาด้วยยาแล้ว แต่ยังต้องการความมั่นใจมากขึ้น
ผลการรักษา
คนไข้ที่เข้ารับการรักษาหลังจากครั้งที่ 3 – 4 จะพบว่ามีความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนการรักษา และสมรรถภาพทางเพศจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้ารับการรักษาครบตามกำหนด ทั้งนี้จำนวนครั้งของการรักษาอาจขึ้นกับภาวะความรุนแรงของโรคหรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น เบาหวาน ภาวะเครียด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้พิจารณาและประเมินผล
ขอบคุณข้อมูล โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล โรงพยาบาลสมิติเวช
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY