เคยไหม ไปซื้อของเช้าบ้าน หยิบ ‘มันฝรั่ง‘ ใส่ตะกร้ามาหลายลูก กะมาเอาแช่ตู้เย็นค่อยกิน หนสุดท้ายลืมทิ้งไว้จน ‘รากงอก‘ จะเอาออกมากิน บอกเลยว่าอย่า ควรทิ้งอย่างเดียว! แล้วเพราะอะไรที่เราไม่ควรกิน มันฝรั่งที่มีรากงอกแล้ว? ไปดูกันเลย
โซลานีน เป็นสารกลุ่ม Steroid Alkaloid เป็นสารรสขมที่มีพิษรุนแรงแม้จะปริมาณเพียงเล็กน้อย พบได้ในมันฝรั่งที่กำลังงอกหรือส่วนที่มีสีเขียว ซึ่งพบว่าหัวมันฝรั่งที่ได้รับแสงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีสารโซลานีนในประมาณสูง หากรับประทานมันฝรั่งที่มีโซลานีนจะทำให้เกิดอาการต่างๆ หลังจากกินเข้าไปแล้วหลายชั่วโมง ดังนี้
- ปวดหัว
- ตัวร้อน อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น
- ปวดแสบปวดร้อนที่คอ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- ปวดท้อง
- ท้องร่วง
- อาจเกิดอาการชัก หรือเห็นภาพหลอน หากมีอาการรุนแรง

ทางด้าน ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยให้ข้อมูลเรื่องนี้ไว้ว่า มันฝรั่งที่มีหน่อขึ้นนั้นมีอันตรายต่อร่างกายจริง แต่มักไม่ได้ถึงกับทำให้เสียชีวิตทั้งหมด โดยมันฝรั่งที่งอกหน่อหรือลำต้นแทงขึ้นมาจะมีการสร้างสารพิษโซลานีน ดังนั้นจึงห้ามกินหน่อของมันฝรั่ง หรือส่วนเนื้อของมันฝรั่งที่เป็นสีเขียวๆ เพราะหากกินเข้าไปจะเกิดอาการต่างๆ ตามมาได้ แต่หากเผลอกินจนมีอาการก็ไม่ควรพยายามให้อาเจียน แต่ควรรีบไปแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม หากพบเจอมันฝรั่งชนิดนี้ทางที่ดีคือทิ้งไป แต่ความจริงแล้วหากต้องการลดปริมาณสารโซลานีนหรือป้องกันไม่ให้เกิดพิษในร่างกายก็ทำได้ ด้วยการนำมันฝรั่งไปทอดน้ำมันร้อนจัด 170°C จะลดปริมาณสารได้ดีโดยให้สารนี้ไปอยู่ในน้ำมันที่ทอดแทน รวมถึงการนำไปต้มให้สุกนานๆ ก็ช่วยได้ แต่ควรจะตัดส่วนหัวที่เป็นรากหรือส่วนที่เป็นสีเขียวนั้นทิ้งไปก่อนนำไปต้ม ไม่ควรนำไปใส่ในไมโครเวฟเพราะความร้อนไม่เพียงพอต่อการทำลายสารโซลานีน นอกจากนี้หากลองกินมันฝรั่งแล้วมีรสขมก็เลิกกินและทิ้งไปทันทีเพราะอาจยังมีพิษเหลืออยู่