สาวๆคนไหนเป็นแบบนี้บ้าง!? เป็นประจำเดือนแล้วท้องเสีย มีสาเหตุมาจากอะไร? และมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง เช็กเลย!
สาวๆคนไหนที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่บ้าง นั้นก็คือการเป็น ประจำเดือน แล้วมักมีอาการ ท้องเสีย ร่วมด้วย เคยสงสัยกันมั้ยว่ามีสาเหตุมาจากอะไร? และมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องเสียนี้หรือไม่ เพราะการเป็นประจำเดือนแล้วมีการปวดท้องเพิ่มเข้ามาอีก แถมยังจะท้องเสียอีก ก็หนักเอาเรื่องเลยหละคะ วันนี้ ไบรท์ทีวี (BrightTV) จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ไขข้อสงสัย ทำไมเป็นประจำเดือนแล้วท้องเสีย
สาเหตุที่ทำให้ท้องเสียระหว่างเป็นประจำเดือน ก็เพราะว่าร่างกายในช่วงที่ก่อนมีประจำเดือนฮอโมนในร่างกายของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสิวขึ้น ปวดหลัง คัดหน้าอก ที่เด่นชัดที่สุดเลยคืออารมณ์ขึ้นๆลงๆ หงุดหงิดง่ายนั่นแหละค่ะ ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีชื่อว่า “เอสโตรเจน” และ “โปรเจสเตอโรน” เมื่อฮอโมนเกิดการเปลี่ยนแปลงก็ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเซโรโทนิน มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นตามกัน ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวได้
นอกจากนี้เมื่อถึงรอบเดือน ร่างกายจะผลิตสารพรอสตาแกลนดินขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งสารตัวนี้แหละค่ะที่ไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็งจนสาว ๆ รู้สึกปวดประจำเดือน อีกทั้งยังทำให้ลำไส้หดตัว เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสียได้ด้วย แต่ส่วนใหญ่อาการไม่น่าเป็นห่วง อาการท้องเสียจะค่อยๆ หายไปเองหลังจากมีประจำเดือนไปได้ 1-3 วัน

วิธีป้องกันไม่ให้ท้องเสีย ในช่วงมีประจำเดือน
- ควรงดอาหารที่รบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร เช่นอาหารรสจัด ไม่ว่าจะหวานจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด มันจัด งดไปก่อนนะคะ รวมถึงผลไม้รสเปรี้ยว
- งดเครื่องดื่มประเภทนม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดอาการท้องเสียระหว่างมีประจำเดือนได้ นอกจากเรื่องท้องเสียแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นไข้ทับระดู และอาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือนได้อีกด้วย
- รับประทานวิตามินบี 6 วิตามินอี แคลเซียม และแมกนีเซียม ตามคำแนะนำของแพทย์
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
สาวๆคนไหนที่มีอาการท้องเสียในระหว่างมีประจำเดือน ก็ลองปรับพฤติกรรมการกินตามที่ไบรท์ทีวีได้แนะนำไปได้นะคะ
