6 เคล็ดลับเลือกโต๊ะไม้สัก แต่งห้องทำงานให้ดูเป็นมืออาชีพ ทันสมัยมากขึ้น สวยมินิมอล สามารถนำมาใช้ตกแต่งห้องทำงานที่บ้านหรือสำนักงานให้ดูดี
เมื่อพูดถึงโต๊ะไม้สัก หลายคนอาจนึกถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ดูโบราณ แต่จริงๆ แล้ว โต๊ะไม้สักมีดีไซน์ที่หลากหลาย และปัจจุบันยังมีการออกแบบที่ทันสมัยมากขึ้น ดูสวยมินิมอล สามารถนำมาใช้ตกแต่งห้องทำงานที่บ้านหรือสำนักงานให้ดูดีได้ไม่ยากเลย แต่จะเลือกโต๊ะไม้สักแบบไหนให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งาน บทความนี้มีเคล็ดลับง่ายๆ มาฝากกัน!
1. เลือกโต๊ะไม้สักที่มีดีไซน์ทันสมัย
โต๊ะไม้สักที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่ทันสมัย สามารถเข้ากับการแต่งห้องได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น มินิมอล หรือสแกนดิเนเวียน อาจเลือกโต๊ะที่มีขาเรียวบาง ไม่ทึบตัน เพื่อให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งสบาย ผ่อนคลาย หรือเลือกโต๊ะที่ดีไซน์โค้งมน ไม่มีเหลี่ยมมุม จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูอ่อนโยน และเป็นธรรมชาติ
2. เลือกโต๊ะไม้สักสไตล์วินเทจ คลาสสิก
สำหรับห้องทำงานระดับผู้บริหาร ควรเลือกโต๊ะไม้สักที่มีดีไซน์หรูหราและคลาสสิก เน้นโต๊ะที่มีโทนสีไม้ปานกลาง – เข้ม ขนาดใหญ่ ด้านหน้าปิดทึบ หากชอบสไตล์วินเทจอาจเลือกโต๊ะไม้สักที่มีการสลักลวดลาย จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูหนักแน่น มั่นคง มีอำนาจ
3. เลือกโต๊ะที่ทำจากไม้สักคุณภาพสูง
วัสดุเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะส่งผลทั้งเรื่องความแข็งแรงทนทาน และความสวยงามของลายไม้ โต๊ะไม้สักที่ดีจึงควรทำจากไม้สักแท้ที่มีคุณภาพ เช่น ไม้สักที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป แก่นไม้จะแน่นและแข็งแรง หรือไม้สักทอง ที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้สักที่มีคุณภาพมากที่สุด นอกจากนี้ต้องผ่านกระบวนการอบด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้ไม้สักคงรูปดี ลดโอกาสที่ไม้จะหดตัวหรือแตกร้าว
4. เลือกโทนสีที่เข้ากับการตกแต่ง
สีของโต๊ะไม้สักจะส่งผลต่อบรรยากาศของห้องทำงาน จึงควรเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ โดยไม้สักโทนอ่อน เช่น สีขาว สีไข่ หรือสีน้ำตาลอ่อน จะให้ความรู้สึกโล่งโปร่ง สบายตา และทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ส่วนไม้สักโทนกลาง เช่น สีน้ำตาลธรรมชาติ หรือสีไม้สักดั้งเดิม จะให้บรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง ในขณะที่ไม้สักโทนเข้ม เช่น สีวอลนัต สีโอ๊กแดง หรือสีดำ จะให้ความรู้สึกหรูหรา ดูภูมิฐาน เพิ่มความโดดเด่นให้ห้องมีมิติ
5. เลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะกับห้อง
ก่อนเลือกซื้อโต๊ะไม้สักควรพิจารณาขนาดของพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถวางโต๊ะได้อย่างลงตัว ไม่เล็กเกินไปจนดูไม่สง่า หรือใหญ่เกินไปจนทำให้ห้องดูอึดอัด หากห้องมีพื้นที่จำกัด ควรเลือกโต๊ะไม้สักที่วางชิดกับผนังได้ หรือโต๊ะไม้สักทรงตัวแอลที่วางเข้ามุมได้พอดี จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก หากห้องมีขนาดใหญ่ อาจเลือกเป็นโต๊ะทรงโค้ง หรือทรงตัวยู จะมีพื้นที่ทำงานได้เยอะ
6. เลือกโต๊ะไม้สักที่มีลิ้นชักใส่ของ
โต๊ะไม้สักที่มีลิ้นชักหรือช่องเก็บของในตัว จะช่วยให้การจัดเก็บอุปกรณ์สำนักงาน หรือเอกสารต่างๆ เป็นระเบียบ หาง่าย หยิบใช้สะดวก มีพื้นที่บนโต๊ะทำงานมากขึ้น ห้องก็จะดูสะอาดตาไปด้วย นอกจากนี้โต๊ะบางรุ่นยังออกแบบให้มีช่องสำหรับเก็บสายไฟ หรือช่องร้อยสาย เพื่อซ่อนสายไฟของอุปกรณ์ต่างๆ อีกด้วย
โต๊ะไม้สักอาจมีราคาสูงกว่าโต๊ะไม้ทั่วไป แต่เมื่อมองในแง่ของความคุ้มค่าแล้วก็น่าลงทุน เพราะเป็นไม้ที่ความแข็งแรงมาก สามารถใช้งานได้นานนับสิบปีโดยไม่เสื่อมสภาพง่ายๆ การดูแลรักษาก็ไม่ยาก เพียงใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำก็ช่วยให้คงความสวยงามได้นาน และยังช่วยเสริมบรรยากาศให้บ้านหรือสำนักงานของคุณดูดีมีสไตล์อีกด้วย