ทนาย “บอสพอล” เตรียมทำหนังสือถึง “ดีเอสไอ” ขอเปลี่ยนสถานะ 5 แม่ข่าย จากผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหาร่วมกัน พร้อมยืนยันไม่ใช่การข่มขู่พยาน
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นาย วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ได้เดินทางมาขอเข้าเยี่ยม “บอสพอล” พร้อมเปิดเผยหลังเข้าไปเยี่ยม “บอสพอล” ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า ในวันนี้เป็นการเข้าไปรายงานสถานการณ์ให้ นายวรัตน์ทราบว่าสำนวนทางคดีถูกโอนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งทางทีมทนายและผู้ต้องขังก็ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษมีประสบการณ์ในการทำคดีประเภทนี้

ส่วนรายละเอียดการพูดคุยได้หารือร่วมกับนายวรัตน์พล เตรียมทำหนังสือถึงกรมสิบสวนคดีพิเศษ ขอเปลี่ยนสถานะจากผู้เสียหายมาเป็นผู้ต้องหาร่วมกัน เบื้องต้น
- นายทินภัทร ตันตระเศรษฐี หรือ ฮัท
- นางสาวชลธิชา ทรัพย์เพิ่มเสถียร หรือ ลูกตาล
- นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร
- นางสาวหนึ่งฟ้า
- นางสาวอโณทัย
รวม 5 คน โดยจะเข้าไปยื่นหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันพรุ่งนี้

- ไฟลนก้น เทศบาลปากเกร็ด รับปากเร่งซ่อมถนนสี่ไชยทอง หลังเรื่องถึงหูสื่อ
- ทนายตั้ม ไม่หนักใจ! ยันความบริสุทธิ ได้เงิน 71 ล้านบาท ตรวจสอบได้จริง
- ไฮโซปอ แฉ ทนายดัง เรียกเงินฉ่ำ แนะสู้คดีแบบผิดๆ ให้โทษคนบนเรือ!?
สำหรับทั้ง 5 คน เป็นแม่ข่าย ที่มีลูกทีมมากกว่าร้อยคน และมีพฤติการณ์ชักชวนให้มาร่วมลงทุนเปิดบิลซื้อสินค้า 250,000 บทท โดยที่ผู้ต้องขังทั้ง 18 คน ไม่ทราบรายละเอียด และยืนยันว่าการ ทำหนังสือขอเปลี่ยนสถานะไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ซึ่งทั้ง 5คนนี้จะต้องมาพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมอย่างเช่น 18 คน ที่กำลังทำอยู่

นอกจาก 5 คน ที่จะถูกเปลี่ยนสถานะให้กลายเป็นผู้ต้องหาร่วมกันแล้วทางทีมทนายความอยู่ระหว่างคัดสำนวนคดีเตรียมดำเนินคดีกับบุคคลที่อ้างเป็นผู้เสียหาย กว่า 2,000 คน
ส่วนการยื่นประกันตัวนายวรัตน์พล จะเริ่มดำเนินการในสัปดาห์ เพื่อขอออกมาต่อสู้ทางคดี ส่วนคนอื่นๆส่วนตัวไม่ทราบ
นอกจากนี้นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ แล็ป ได้ทำหนังสือแต่งตั้งให้ตัวเองเป็นทนายความประจำตัว หลังเกิดกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบภายในเรือนจำพร้อมกับตำรวจสืบสวนโดยไม่ได้รับอนุญาต