ตร.คุมตัวจีนฆาตกรสุดโหดทำแผน ครอบครัวสาวสองเดือดกระโดดถีบกลางโรงพักสุดชุลมุน ติดใจตร.ไม่ยอมให้คนร้ายขอขมาพ่อ
27 เม.ย. 2568 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้ควบคุมตัว นายตงหยวน ฟู่ ฆาตกรจีนสุดเหี้ยม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเป็นห้องพัก หมายเลข 201 ชั้น 2 พร้อมกับสาธิตขั้นตอนการลงมือฆาตกรรม ซึ่งหลังจากผู้ต้องหาได้โดนน้องถีบลงจากเตียง เลยโกรธแค้นขึ้นคร่อมและใช้มือบีบคอน้องแล้วใช้มือทุบหัวและลำตัวจนน้องสิ้นลมหายใจ จากนั้นก็เริ่มชำแหละเครื่องในน้องออกมาวางข้างศพ ก่อนจะหลับพักเอาแรง พอตื่นเช้าขึ้นมาก็อาบน้ำขึ้นรถหลบหนี

เมื่อระหว่างควบคุมตัว นายตงหยวน ขึ้นรถไปทำแผนยังจุดที่ 2 ได้ต่างมีประชาชน เข้ามาตะโกนรุมสาปแช่ง ถึงพฤติกรรมอันโหดเหี้ยม จากนั้นตำรวจจึงเอาตัวรถขึ้นรถไปยังจุดที่ 2 คือร้านทุกอย่าง 20 บาท ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร แต่เนื่องจากจุดนี้มีประชาชนซึ่งเดินทางตามมาจากจุดแรก เตรียมพร้อมจะรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจเลยต้องมีการยกเลิกทำแผนจุดที่ 2 ออกไป จู่ๆ ลุงอ้วน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นบิดาผู้ตาย พร้อมกับครอบครัว ได้เดินทางมาดูหน้าคนร้าย ในอาการที่เสียใจ และอยากจะถามว่าคนร้ายทำไปเพื่ออะไร
โดยตัว ลุงอ้วน พ่อผู้ตาย ระบุว่า เจอลูกครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ถัดมาอีกวันลูกได้ขอตัวกลับพัทยาเพื่อไปทำงาน โดยตัวแม่เองระหว่างที่ลูกอยู่บ้าน มีคนทักว่าระวังจะเสียของรัก ซึ่งตัวแม่เองก็คงคิดว่าเป็นพ่อที่มีอายุเยอะแล้ว ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นลูกของตัวเอง ซึ่งวันที่ลูกถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งตรงกับวันเกิดของแม่พอดี ประกอบกับ อายุของตัวน้องคบเบญจเพส หลังเกิดเหตุยอมรับว่าทางครอบครัวต่างพากันโศกเศร้าเสียใจซึ่งเสียเสาหลักของครอบครัว ซึ่งตัวพ่อระบุว่าถ้ากฎหมายฆ่าคนตายไม่ผิด พ่อเองจะเป็นคนฆ่าคนจีนคนนั้น เพื่อล้างแค้นแทนลูก

จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวมายังจุดที่ 3 ซึ่งอยู่ปากซอย 13/4 ถนนเลียบชายหาดพัทยา โดยนายตงหยวน ระบุว่าจุดนี้เป็นจุดที่พบกับน้องผู้ตายครั้งแรก โดยผู้ตายเดินเข้ามาทักเป็นภาษาจีน จากนั้นมีการแลกวีแชทเพื่อติดต่อพูดคุย และตกลงว่าจ้างเอนเตอร์เทนน้องมาดูแลในราคา 8,000 บาท และจุดสุดท้ายบริเวณท่ารุ่งเรืองทัวร์พัทยาเหนือ ซึ่งเป็นจุดที่มาซื้อตั๋วนั่งรถบัสไปลงสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อบินหนีออกนอกประเทศ แต่ไม่รอดถูกตำรวจไทยจับกุมได้ก่อนเครื่องบินออกจากประเทศเพียง 1 ชั่วโมง
ภายหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ตำรวจได้ควบคุมตัวมาที่สถานีตำรวจ ระหว่างคุมตัวขึ้นบนชั้นสามเพื่อไปสอบสวนถึงประเด็นที่ต้องสงสัยอื่นๆ ได้ปรากฏว่ามีกลุ่มญาติของน้องผู้ตายดักเฝ้ารออยู่ ทันทีเมื่อครอบครัวเห็นหน้าผู้ต้องหาก็ปรี่เข้ามากระโดดถีบ และรุมประณามสาปแช่ง ซึ่งทางครอบครัวก็ยังติดใจว่าตำรวจทำไมไม่ยอมให้ตัวคนร้ายเข้ามาขอขมาตัวพ่อและครอบครัว กับสิ่งที่คนร้ายได้ทำไปอย่างไม่มีวันลืม
อย่างไรก็ตามตำรวจจะเร่งสอบสวนสืบสวน อวัยวะภายในซึ่งเป็นส่วนปอดที่หายไปหนึ่งข้าง จากการสอบสวนเบื้องต้นคนร้ายยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป โดยหลังชำแหละก็ทิ้งไว้อยู่ใกล้กับศพ ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลและรวบรวมหลักฐานผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบเพื่อสรุปคดีอีกครั้ง พร้อมกับจะนำตัวคนร้ายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ว่าเจ้าตัวนั้นมีอาการป่วยทางจิตประสาทหรือไม่ สำหรับอัตราโทษ ตำรวจยืนยันว่าเป็นโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต




