วิเคราะห์สาเหตุ ทำไมจีนต้องเจาะจงแบน อุลตร้าแมนทีก้า ทั้งที่ฉายมาแล้ว 25 ปี มาแบนอะไรเอาตอนนี้
จากการที่ประเทศจีนได้เริ่มมีมาตรการจัดการกวาดล้างสื่อโทรทัศน์ที่มีความไม่เหมาะสมออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดการกับซีรีส์จีนที่มีเนื้อหาแนวรักร่วมเพศ ชายรักชาย โดยการสั่งห้ามฉายตามสื่อออนไลน์และสื่ออื่นๆ โดยทางจูหย่งเหลย รองผู้อำนวยการสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของจีนกล่าวว่า สื่อเหล่านี้สร้างค่านิยมที่บิดเบี้ยวให้กับคนจีน
ซึ่งล่าสุดนี้ประเทศจีนได้ทำการกวาดล้างการ์ตูนสำหรับเด็กหลายๆเรื่องด้วยเช่นกันแต่ที่เป็นกระแสข้อถกเถียงกันในคนหมู่มากนั้นก็คือการแบนซีรีส์แนวฮีโร่จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งก็คือ อุลตร้าแมนทีก้า โดยเป็นการระบุเจาะจงว่าต้องเป็น ทีก้า แต่อุลตร้าแมนตัวอื่นๆยังคงสามารถถ่ายทอดให้รับชมได้ตามปกติ ซึ่งนั่นทำให้ชาวจีนหลายคนรวมถึงชาวต่างประเทศหลายคนเกิดความกังขาว่าเพราะอะไรจึงต้องเจาะจงอุลตร้าแมนทีก้า ซึ่งเป็นอุลตร้าแมนที่ได้ความนิยมสูงสุดในประเทศจีน มีแฟนคลับมากมาย ทั้งในปีนี้ยังครบรอบ 25 ปีของอุลตร้าแมนทีก้าอีกด้วย
สำหรับซีรีส์อุลตร้าแมนทีก้านั้นออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 7 กันยายน ปี 2539 และ จบลงในวันที่ 30 สิงหาคม 2540 โดยมีทั้งหมด 52 ตอนและ ภาคหนังโรงที่เป็นตอนจบบริบูรณ์อีก 1 เรื่อง โดยเนื้อหาจะออกไปทางผู้ใหญ่รับชมเสียมากกว่า เนื่องจากมีความเข้มข้นทั้งบทสนทนาและฉากแอคชั่น มีการพูดถึง ความเชื่อ ศาสนา พระเจ้า ความรัก โดยตามท้องเรื่องนั้นเดิมทีอุลตร้าแมนทีก้าโดยมีอายุกว่า 30 ล้านปี และอยู่ฝั่งชั่วร้ายเป็นมนุษย์ยักษ์แห่งความมืด ก่อนจะถูกชักจูงให้กลายมาเป็นมนุษย์ยักษ์แห่งแสงสว่าง
และเหล่ามนุษย์โลกก็บูชาอุลตร้าแมนทีก้าดุจดั่งเทพเจ้าเสมอมา จนเข้าสู่ยุคปัจจุบันชายหนุ่มที่ชื่อว่า มาโดกะ ไดโกะ ผู้อยู่สังกัดหน่วยพิทักษ์โลกได้พบกับรูปปั้นของเหล่ามนุษย์ยักษ์ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออุลตร้าแมนทีก้า โดยตามเนื้อเรื่องจะระบุว่าไดโกะเป็นผู้สืบทอดแห่งแสงสว่าง หนึ่งในบรรพบุรุษของไดโกะ มีการสืบเชื้อสายมาจากอุลตร้าแมนทีก้า ทำให้ในขณะที่ไดโกะกำลังจะเสียชีวิตร่างกายของเขาก็ได้รวมกับรูปปั้นอุลตร้าแมนทีก้า และเข้าต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว ผีปีศาจ และสัตว์ประหลาดเพื่อปกป้องโลก
เนื้อเรื่องผิวเผินก็ดูเหมือนจะเป็นอุลตร้าแมนทั่วๆไป เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี แต่หากเข้าใจความเข้มงวดของจีนในเรื่องสื่อบันเทิงต่างๆนั้นจะเห็นได้ว่าจีนนั้นไม่สนับสนุนเนื้อหาที่เกี่ยวกับผี วิญญาณ ความเชื่อ ความรุนแรง เซ็กส์ ภาพวาบหวิวที่อาจโน้มน้าวแนวคิดคนในชาติได้อีกทั้งในบางช่วงบางตอนยังมีการพูดถึงการฆ่าตัวตาย การตายอย่างมีความสุข ซึ่งเกิดขึ้นในตอนที่ 45 ว่าด้วยเรื่องของต้นไม้สัตว์ประหลาดที่ปล่อยละอองเกสรทำให้คนอยากตาย อยากอยู่ในฝันอย่างมีความสุข และตายแบบไม่ทรมานในวันที่ต้องโดนกวาดล้าง
โดยเฉพาะในตอนที่ 51-52 ซึ่งเป็นบทสรุปของเรื่อง หากจะมองว่าเป็นการส่งเสริมให้เด็กเชื่อมั่นว่าเราเองก็เป็นอุลตร้าแมนได้ ถ้าเรามีจิตใจที่ดีงามและมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเนื้อเรื่องในตอนจบอุลตร้าแมนจะพ่ายแพ้ให้กับสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวอุลตร้าแมนทีก้าเสียอีก โดยอุลตร้าแมนทีก้าจะหมดพลังและกลายเป็นรูปปั้นหินแต่เพราะพลังศรัทธาในตัวของอุลตร้าแมนทีก้า เด็กทั่วโลกจึงกลายเป็นอุลตร้าแมนทีก้าและต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและเอาชนะมาได้ โดยสุดท้ายไดโกะก็ไม่สามารถเป็นอุลตร้าแมนได้อีก โดยให้เหตุผลว่าทุกคนสามารถเป็นแสงได้ หากมีความดี ทุกคนก็เป็นอุลตร้าแมนได้ แต่จีนอาจมองว่าตรงนี้ส่งเสริมให้เด็กใช้ความรุนแรง
ซึ่งในระหว่างเรื่องราวก็มีจะบางช่วงบางตอนทั้งมีการต่อสู้บาดเจ็บเลือดออกเป็นการไล่ฆ่ากันกันโจ่งแจ้ง ตัวละครหญิงในบางครั้งก็มีการแต่งตัววาบหวิว ซึ่งในตลอดทั้งเรื่องจะมีเรื่องของความรักชู้สาวและไปขยายสเกลขึ้นในภาคหนังโรงโดยมีการพูดถึงคนรักเก่าของอุลตร้าแมนทีก้าเมื่อ 30 ล้านปีก่อน และกลับมาทวงคนรักจาก เรนะ คนรักของไดโกะ ในปัจจุบันเป็นเนื้อหาคล้ายๆรัก 3 เศร้าแย่งชิงคนรักกันซึ่งแน่นอนว่าทางการจีน คงไม่ปลื้มแน่ๆ ทั้งยังมีการกอดจูบกันอย่างดูดดื่มของพระนางในเรื่อง
จากเรื่องราวคร่าวๆที่ได้นำเสนอไปข้างต้นก็พอจะนำมาเป็นสาเหตุหลักๆได้ว่าเหตุใดทางประเทศจีนจึงทำการแบนอุลตร้าแมนทีก้าและมองว่าเป็นภัยต่อเยาวชนของจีน ซี่งอย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาโดยหากติดตามอุลตร้าแมนกันจริงๆก็จะพบได้ว่าทุกเรื่องมีโอกาสโดนแบนได้หมด ก็หวังว่าสักวันคงได้รู้ว่าจีนแบนอุลตร้าแมนทีก้า ซึ่งเป็นซีรีส์ยอดฮิตระดับตำนานด้วยสาเหตุใด
