เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัว ชาวบ้านผวา หลังน้ำทะลักเข้าตัวบ้าน ทำเสาบ้านเอียง-แตกร้าว เสียหายกว่า 3.5 แสน วอนหน่วยงานรับผิดชอบ
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (12 พ.ค. 2567) นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.พรรคก้าวไกล เขต 3 จ.นนทบุรี นายสมนึก คำนวณ รองนายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย พร้อมด้วย ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังได้รับแจ้งเขื่อนริมน้ำ โครงการปรับปรุงอาคารประกอบประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองบางกรวย หลังวัดลุ่มคงคาราม ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้รับผิดชอบโครงการ โครงการชลประทานนนทบุรี สำนักงานชลประทานที่ 11 กรมชลประทาน วงเงินก่อสร้าง 38,920,000 บาท
พบว่าเกิดการทรุดตัวระยะทางประมาณ 70 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าเซาะริมตลิ่ง น้ำจะเข้าไปที่คลองบางกรวย และมีผลกระทบจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้น ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมเขื่อนได้รับความเสียหาย เสาบ้านเอน แตกร้าวและหัก คานหลังคาหักลงมา และกระเบื้องลั่นปะทุขึ้นมา
ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณ หลังเขื่อนริมน้ำ โครงการปรับปรุงอาคารประกอบประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองบางกรวย หลังวัดลุ่มคงคาราม ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยบริเวณหลังเขื่อนมีชาวบ้านหลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบจากโครงการที่นำหินคลุกมาลงเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ทำให้บ้านพัง เสาบ้านเอียงแตกร้าว
ทางด้านสุพัตรา วิภางค์ศิริ อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย เจ้าของบ้านเลขที่ 48/2 ม.3 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กล่าวว่า บ้านตนได้รับความเสียหายเสาบ้านเอน และแตก มีรอยร้าว 4 เสา เท่าที่สำรวจตอนนี้ ผ่านมา 2 วัน พื้นกระเบื้องระเบิด คานหน้าบ้านหัก ตนก็กลัวบ้านโค่นเพราะดึงรั้งกัน ต้องอยู่แบบหวาดระแวง นอนไม่หลับ เพราะกลัวบ้านพังเสียหาย ตนเป็นความดันด้วยยิ่งระแวงกว่าเดิม ก่อนหน้านี้บ้านของตนแข็งแรง เมื่อวันก่อนฝนตกบ้านก็สั่น ตอนที่หน่วยงานนำหินคลุกมาลงบ้านก็สั่นคลอน เอาเรือมาจอดก็น่าจะกระแทกกับเขื่อนด้วย ประมาณ 2-3 เดือน ตอนลงหินคลุกมันน่าจะดันเสาบ้าน หินน่าจะไหลมาดันแล้วดินไหล
ตนดูตอนที่น้ำยังแห้ง เห็นบ้านข้างๆเสาเอนเลยมาดูบ้านตัวเองถึงเห็นว่าเสาร้าว และหัก จึงถ่ายรูปเก็บไว้ ตนอาศัยอยู่ 5 คน ต้องย้ายของและใช้พื้นที่อาศัยไม่ได้ทั้งหมดเพราะกลัวเสาหัก ยืนยันบ้านตนแข็งแรงไม่มีหักร้าวมาก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้ประเมินความเสียหาย กรมชลประทานได้เข้ามาสอบถามพูดคุยแล้วแต่ยังไม่ได้ตกลงกัน มีแต่ช่างที่รู้จักมาตีราคาให้ประมาณ 350,000 บาท ตนสู้ไม่ไหว ไม่มีเงิน อายุเยอะแล้ว อยากอยู่อาศัยและนอนหลับแบบสบาย
อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแล ทำให้ตนด้วย และความเสียหายเกิดจากการทำเขื่อน ตนอยู่มาดีๆ ตนเห็นด้วยที่มีการสร้างเขื่อน แต่พอมันเกิดความเสียหาย อยากขอความเมตตาให้เข้ามารับผิดชอบ
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ บริเวณชุมชนหลังวัดลุ่มคงคา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้กังวลในเรื่องของเขื่อนที่แตกพัง อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเร่งดำเนินการดำเนินการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว เพราะชาวบ้านที่อาศัยอาศัยอยู่ตรงนี้กังวลในเรื่องของน้ำท่วม เพราะพื้นที่ดังกล่าว น้ำท่วมประจำทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้เขื่อนกลับมาพังอีกเกรงว่าประชาชนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนักกว่าเดิม
