สาวใหญ่ ป่วยโควิด นอน ร.พ.14 วัน ไร้ยารักษา หมอปล่อยกลับบ้าน หลังกลับได้ 2 วัน ทรุดหนักเชื้อลงปอด หลังหายอาการไม่ปกติ หมอรับพลาดเอง
นางสาวนิกัลยา มามะ อายุ 38 ปี ป่วยโควิดนอนโรงพยาบาล 14 วัน ขณะอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้รับยาอะไรเลย เหมือนนำไปกักตัวรวมกับผู้ป่วยรายอื่นไว้เฉยๆ 6 ราย หลังครบ 14 วันหมอปล่อยให้กลับบ้าน หลังกลับบ้านได้ 2 วัน มีไข้ขึ้นสูงไอเป็นเลือด จึงโทรศัพท์ติดต่อที่โรงพยาบาลเพื่อบอกอาการ หมอจึงให้ไปตรวจซ้ำ สรุปอาการหนักต้องแอดมิดด่วนเชื้อลงปอด นอนรักษาตัวใหม่อีก 14 วัน กลับจากครบกำหนด 14 วันหมอให้กลับบ้าน ทั้งๆที่อาการยังไม่ดีขึ้น หลังกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านอาการก็แย่ลง มีอาการหายใจหอบลุกยืนเฉยๆยังเหนื่อย วอนอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลเพื่อเป็นเคสตัวอย่างกับสังคม


นางสาวนิกัลยา กล่าวว่า ตนเองได้ตรวจพบเชื้อโควิดเมื่อ วันที่ 12 เมษายน 64 จากนั้นหน่วยงานรัฐได้ติดต่อเข้ามาว่าจะนำรถโรงพยาบาลมารับ หลังนอนรออยู่บ้านหลายวัน จนวันที่ 17 เมษายน 64 รถพยาบาลของโรงบาลแห่งหนึ่งย่านรามอินทราได้มารับตัวไปรักษา โดยจัดให้ตนเองอยู่ในห้องรวมกับผู้ป่วย6 ราย ช่วงระยะเวลาที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 14 วัน ตนเองมีอาการแน่นหน้าอกเล็กน้อย แต่ทางโรงพยาบาลไม่ได้จัดยามาให้แม้แต่ชุดเดียว หลังนอนอยู่โรงพยาบาลครบ 14 วัน หมอได้ให้ตนกลับบ้านโดยไม่ได้ตรวจว่าเชื้อโควิดเป็นลบหรือยัง หลังออกจากโรงพยาบาลมา ตนก็มากักตัวอยู่ที่บ้านหลังจากกักตัวได้ 2 วัน ตนเองมีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงและหายใจหอบยังมีอาการไอเป็นเลือดอีก ตนจึงติดต่อทางโรงพยาบาลเพื่อขอกลับไปตรวจอีกครั้ง หลังจากไปตรวจอีกครั้งพบว่าเชื้อโควิดได้ลงปอดแล้ว

ต้องแอดมิดเร่งด่วน แต่การเข้าโรงพยาบาลรอบนี้ได้ยากิน หลังจากรักษา ตัวครบ 14 วัน ทางหมอได้ให้กลับบ้าน แต่ตนเองยังรู้สึกอาการไม่ดีขึ้นยังมีการหอบอยู่ หมออ้างว่าเกิดจากเชื้อโควิดที่ตายแล้วอยู่ในปอด เดี๋ยวจะหายเอง โดยหมอได้พูดกับตนว่าหมอพลาดเองที่การรักษาครั้งแรกหมอไม่ได้ให้กินยาตั้งแต่ต้น โดยอ้างว่ายามันแพง ตนอยากให้เคสของตนเองเป็นเคสศึกษา ว่าที่จริงแล้วเชื้อโควิดไม่ได้หมดไปภายใน 14 วัน เพราะว่าตนรักษาอาการมาแล้วกว่า 40 วัน แต่เชื้อยังมีอยู่ในร่างกายเลย