ผกก.สน.ทองหล่อ น้อมรับคำวิจารณ์ จนท. ช่วยเหลือ ‘กลุ่มเชื่อมจิต’ หลบเลี่ยงสื่อ-เปลี่ยนที่ปั๊มลายนิ้วมือ ยืนยัน! ไม่มี 2 มาตรฐาน
จากกรณี ครอบครัวเด็กเชื่อมจิต เดินทางเข้าพบตำรวจที่ สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เดินทางไปติดตามคดีด้วยตัวเอง จนกระทั่งช่วงเย็นเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น ตามมาการตั้งคำถาม และเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากจากโลกโซเชียล
เนื่องจาก กลุ่มนิรมิตเทวาจุติ พยายามขอเจ้าหน้าตำรวจพิมพ์ลายนิ้วมือชั้น 1 จนกระทั่ง ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เข้าไปท้วงติงว่ามีอภิสิทธิ์อะไรถึงสามารถนำเครื่องพิมพ์ลายนิ้วมือ ลงมาด้านล่าง ชั้น 1 ของสถานีตำรวจได้ คาดว่าต้องการหลบหน้าสื่อมวลชนและประชาชนที่มารอดู เนื่องจากห้องพิมพ์ลายนิ้วมืออยู่ชั้น 2 ของสถานีตำรวจ
รวมถึง ในช่วงหนึ่ง หนุ่ม กรรชัย ได้ขออนุญาตเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาขวางและเผยว่าตอนนี้ไม่สามารถให้เข้าห้องน้ำได้ จนเป็นการตั้งคำถามเป็นจำนวนมากว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ทองหล่อ ปฏิบัติหน้าที่ 2 มาตรฐาน หรือไม่?
ล่าสุด วันนี้ (4 มิ.ย. 2567) รายการโหนกระแส ได้เปิดเผยความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ได้ ชี้แจงกรณีเมื่อวานนี้จากกรณีครอบครัวเชื่อมจิต เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันดูหมิ่นด้วยการโฆษณา, หมิ่นประมาโดยการโฆษณา และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้องเหตุ ที่ กรรชัย ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
โดย พ.ต.อ.พันษา บอกว่า ครอบครัวเชื่อมจิตพร้อมทนายความได้มาที่ สน. เมื่อวานนี้ ก่อนวันนัดหมาย 2 วัน เมื่อมา
ถึงพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพร้อมจะให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือซึ่งโดยปกติจะต้องพิมพ์ที่ชั้น 2 ที่เป็นห้องคุม
ขัง แต่เนื่องจากมีเด็กวัย 8 ขวบมาด้วย ทางตำรวจจึงขอให้เด็กอยู่กับทนายความชั้นที่ 1 และจะเชิญตัวพ่อและแม่
ขึ้นไปพิมพ์ลายนิ้วมือชั้น 2
แต่พ่อของแม่และเด็กไม่ยินยอมต้องการให้เด็กวัย 8 ขวบอยู่กับพ่อและแม่ตลอดเวลา ตำรวจจึงพิจารณาว่าหากนำ
ตัวเด็ก 8 ขวบ ขึ้นไปร่วมพิมพ์ลายนิ้มือที่ห้องขังจะไม่เหมาะสม หากมีภาพหลุดออกไป จึงให้มีการพิมพ์นิ้วมือที่
ชั้น 1 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับพนักงานสอบสวน ยืนยันไม่ได้ปฏิบัติงาน 2 มาตรฐานตามที่สั่งคมกล่าวอ้าง และที่ผ่านมาก็
เคยมีคดีที่พิมพ์ลายนิ้วมือชั้นที่ 1
ส่วนประเด็นที่มีตำรวจนายหนึ่งไม่อนุญาตให้ หนุ่ม กรรชัย เข้าไปเข้าห้องน้ำด้านใน สน. โดยใช้คำที่รุนแรงเสียงแข็ง ทาง พ.ต.อ.พันษา ยอมรับว่า กลัวที่จะมีการปะทะ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นว่ามีการโพสต์ว่ากันไปมาและมีฝ่ายสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย ทางเราไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายจึงใช้กำลังเจ้าหน้าที่มารักษาความสงบความปลอดภัยความเรียบร้อย
ส่วนถ้าจะทำให้ใครไม่ถูกใจ ตนขอน้อมรับไว้ ส่วนที่มีตำรวจลูกน้องใช้คำพูดที่ดูรุนแรงกับหนุ่ม กรรชัย ตนเองได้ตำหนิแนะนำอบรมสั่งสอนลูกน้องแล้ว ว่าเราสามารถใช้คำที่สุภาพนุ่มนวลกว่านี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมได้ ซึ่งหากไม่ถูกใจส่วนไหนตนก็ขอโทษและขอน้อมรับไว้
ขณะที่เมื่อวานนี้ ทนายได้ฟ้อง หนุ่ม กรรชัย และต้นอ้อ เป็นหนึ่ง รายละเอียดยังขอสงวนไว้เพราะอยู่ในการสอบสวน แต่หนึ่งในข้อหา ถูกคุกคามทำให้เกิดความกลัว และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งได้แจ้งความในช่วงเย็นวานนี้ หลังจากที่หนุ่ม ได้กลับไปแล้ว ส่วนหลังจากนี้จะต้องเชิญหนุ่มกรรชัยและต้นอ้อเป็นหนึ่งมารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้ขอรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงก่อน
