นายจ้าง ปฏิเสธ ลวงสาวไทยไปฆาตรกรรม ที่ไต้หวัน ขณะที่เปิดกล้องวงจรปิดจับภาพ นายจ้างขับมอเตอร์ไซค์มาใกล้ที่เกิดเหตุ ตร.คาดมีปากเสียง ก่อนลงมือ
จากกรณี สาวไทยอายุราวประมาณ 30 ปี ถูกฆาตรกรรมที่ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมาทราบชื่อภายหลังว่าเธอชื่อ น.ส.สุดธิดา แสนแสง อายุ 32 ปี ชาว ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย หลังก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนั้น เธอได้มีการติดต่อไปหาแฟนสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ และมาพบเป็นศพที่ภูเขาต้าวูลุน จีหลง
หลังจากที่มีการรายงานออกมาว่า วานนี้ (12 พ.ค. 2567) ตำรวจได้มีการจับกุม หญิงแซ่หลิน (นายจ้าง) หลังจากสอบปากคำ เธอถูกตัดสินว่ามีความผิด และทำการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อการคุมขังศาลจะพิจารณาคดี
ต่อมา นายจ้างหญิงแซ่หลิน ทำเรื่องขอประกันตัว หลังจากตำรวจทำเรื่องขอควบคุมตัวเธอ เกรงว่าจะหลบหนี หรือทำลายหลักฐาน แซ่หลิน หรือ หลิน เป็นชาวไทยที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ
หลิน ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น แต่หลินไม่สามารถอธิบายเส้นทางการเดินทางที่เกี่ยวข้องได้มีภาพในกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ และ การพาผู้เสียชีวิตขึ้นภูเขาเพราะอะไร ส่วนแฟนหนุ่มชาวไทย ทำงานในซินจู๋ ให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิต ได้ขอความช่วยเหลือ และแชร์โลเคชั่นให้ ในช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ค. และได้ออกตามหา พร้อมเพื่อนอีก 2 คน
ซึ่งแฟนชาวไทยบอกว่าไม่เก่งภาษาจีน ได้วานเพื่อนในเมืองฮั้วหลียน แจ้งความประสานตำรวจจีหลง ให้ช่วยออกตามหา แฟนชาวไทย และเพื่อน 2 คน มาพบร่างหญิงไทย จนมาพบร่างเมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ค. เมื่อตำรวจมาถึงพบว่าหญิงไทยได้เสีชีวิตแล้ว จากสาเหตุเสียเลือดมาก
จากข้อมูล ผู้ต้องสงสัย แซ่หลิน หรือ หลิน อายุ 50 ปี ชาวไทยที่มีสถานะเป็นนายจ้าง โดยในบางสื่อได้มีการระบุเธอนั้น นับศักดิ์เป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต แต่ไม่ใจนักว่านับถือกันตามการพบเจอ หรือ ทางสายเลือด
นอกจากนี้ หลักฐานในที่เกิดเหตุ มีรอยเลือด และรอยลากร่งผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบหลักฐานอื่นๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ หลังจากที่ตำรวจตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่า หลิน นายจ้างขับมอเตอร์ไซค์มาที่นี่ สันนิษฐานว่าอาจมีปากเสียงกัน ก่อนลงมือ