คืนเดือนเพ็ญผวา! พระลูกวัด หวังถ่ายภาพ พระจันทร์เต็มดวง กลับได้ได้ภาพประหลาด คล้าย “เปรต” ร่างใหญ่ปรากฏใน วัดนาแก
เมื่อวันที่ 5พ.ย. 67 ที่ จ.แพร่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ ภาพติดวิญญาณ คล้าย “ผีเปรต” ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ พร้อม ข้อความว่า “ผีเปรต มีจริง บุญ บาป มีจริง” โดยมีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ว่า ภาพนี้ถ่าย ที่ วัดนาแก อ.ลอง จ.แพร่ ก่อนจะกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงนักวิชาการหลายๆท่าน
เมื่อลงพื้นที่พบว่า มีชาวบ้านกำลังจับกลุ่มคุยเรื่องนี้กันตามร้านค้าในหมู่บ้าน จากนั้นจึงได้พบกับ เจ้าอาวาสวัด พร้อมพระลูกวัด ซึ่งเป็นคนถ่ายภาพดังกล่าวได้ด้วย
โดย พระลูกวัดผู้ถ่ายภาพ เล่าว่า ภาพนี้ถ่ายกลางคืน เวลา 21.50 น. คืนวันออกพรรษา 17 ต.ค. 67 วันก่อนตักบาตรเทโว หลังจากกลับจากงานสวดศพ ได้มานั่งพักที่เก้าอี้หินอ่อนข้างกุฏิ โดยถ่ายภาพเพื่อดูพระจันทร์วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นคืนฟูลมูน พระจันทร์เต็มดวง ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายกราดไปรอบวัด
ระหว่างนั้นได้ยินเสียง นกแสกร้อง และมีเงาดำเกิดขึ้นบริเวณทิศตะวันออกทุ่งนาติดวัด เลยกดบันทึกภาพนิ่ง จากนั้นได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนวิ่งไปตามถนนหายไปทางดอยโป่งหมื่น จึงได้มาดูภาพก็พบว่ามีเปรตยืนอยู่ในภาพ ทำให้ขนลุกจึงได้นำภาพมาให้เจ้าอาวาสดู

ด้าน เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า หลังจากเห็นภาพแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะวัดกับเปรตเป็นของคู่กันมานมนาน เชื่อว่าคงเป็นเปรตที่อาตมาเคยได้ยินเสียง เมื่อปี 43 ขณะตีกลองบูชาวันพระขึ้น 15 ค่ำกลางพรรษาเดือนกันยายน ขณะทุ่งนาข้างวัดต้นข้าวเริ่มแตกรวง เสียงกรีดร้องโหยหวน เยือกเย็นจนขนลุก ก็คิดว่าเสียงผีเปรตขอส่วนบุญจนต้องสวดมนต์อุทิศส่วนกุศล ส่วนเรื่องการถ่ายภาพมือถือติดเงาดูครั้งนี้ คงเป็นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เพื่อขอส่วนบุญ และเป็นการแสดงบ่งบอกว่า บาปบุญมีจริง นรกสวรรค์มีจริง
- พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม! เหตุรถทัวร์ กทม.-อุตรดิตถ์ พลิกคว่ำลงข้างทาง
- เสรีพิศุทธ์ ชี้เป้า! บิ๊กโจ๊ก ตัวแปรคดี ‘ทักษิณ’ เข้ารักษาตัว ชั้น 14
- ทนายตั้ม ชิงเข้าพบ จนท.ก่อนโดนหมายจับ เผย มีตำรวจดักซุ่มอยู่หน้าบ้าน
นอกจากนั้น ทางวัดเองก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับผียักษ์ ผีเปรต มาตั้งแต่โบราณ โดยมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งหมู่บ้านมีเรื่องประหลาด เมื่อเด็กวัดในยุคร้อยกว่าปีใช้หน้าไม้ยิงตัวบ่างอูรัว (บ่างยักษ์) ที่บินมาทางทิศใต้ เล่ากันว่าเป็นตัวบ่างฯ ที่อาศัยอยู่ป่าวัดศักดิ์สิทธิ์ของอำเภอลอง
แต่เจ้าอาวาสวัดสมัยนั้น ได้เกิดอาพาธ ไม่ได้ไปร่วมทำกิจสงฆ์ในงานประเพณีปีนั้น ตัวบ่างคงจะบินมาดูว่าทำไมครูบา จึงไม่มาร่วมพิธีสงฆ์ แต่เด็กวัดได้ใช้หน้าไม้ยิงบ่างตาย และนำเนื้อมาทำอาหารกินร่วมกันกับชาวบ้าน และสามเณร โดยที่เจ้าอาวาสวัดไม่ทราบ จนเกิดอาเพศ คนที่กินและครอบครัวล้มตายกันแทบครึ่งหมู่บ้าน จนมีการอพยพออกพื้นที่เพราะกลัวตาย
ต่อมาทางชาวบ้านไปหา ร่างทรง 7 ตน มาทำพิธีขอขมา เพื่อขอเกิดความสงบสุขในหมู่บ้าน ตั้งแต่บัดนั้นทุกวันโกน ขึ้น 7 ค่ำ แรม 7 ค่ำ ขึ้น 14 ค่ำ แรม 14 ค่ำ ตลอดทั้งปี พระสงฆ์ต้องทำพิธีกรวดน้ำ ให้ศีล บริเวณข้างกำแพงวัดใกล้ทุ่งนาที่ตั้งศาลผีหม่อม (ผียักษ์) จนถึงปัจจุบันไม่มีขาด และความเชื่อของชาวบ้านศรัทธายังมีอยู่ ซึ่งศีล 5 ข้อ ที่ให้กับผียักษ์ จะแตกต่างจากที่ให้กับพุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นวัดเดียวที่มีการปันศีลให้ผียักษ์ เป็นศีล 5 ที่ท่องไม่เหมือนใครที่สืบทอดกันมาตลอดไป
ด้าน รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่าน Jessada Denduangboripant ว่า “ภาพผีเปรต ผมว่าแค่ภาพตัดต่อครับ”
นักข่าวโทรมาขอความเห็น เกี่ยวกับภาพที่มีคนอ้างว่าถ่าย “ผีเปรต” ได้ที่วัดนาแก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ .. ลักษณะเป็นดังภาพที่แนบมานี้ครับ คือเป็นเงาสูงใหญ่สีดำ อยู่ในบริเวณภาพท้องฟ้าด้านขวาของรูปวัด
ซึ่งในอดีต ก็เคยมีภาพทำนองอ้างว่าถ่ายเห็นเงาดำๆ สูงๆ เบลอร์ๆ ดูแล้วคิดว่าผีเปรต แต่พอไปดูใกล้ๆ จริงๆ ในตอนกลางวัน ก็พบว่าเป็นเสาไฟที่มีต้นไม้พันขึ้นอยู่ ทำให้เข้าใจผิดไปเอง

แต่รูปนี้มันชัดเจน เห็นตัวตนชัดมากๆ จนผมคิดว่าดูยังไงก็เป็นภาพตัดต่อครับ ซึ่งสมัยนี้มันทำง่ายมาก ไม่ว่าจะใช้คอมพิวเตอร์ photoshop ตัดต่อ หรือจะทำผ่าน application ตัดต่อภาพในมือถือก็ยังได้ รวมทั้ง app บางอันที่ใช้ซ้อนภาพผีลงไปขำๆ ในภาพก็มี
ส่วนวิธีพิสูจน์ ก็เพียงแค่ไปเอาไฟล์ภาพต้นฉบับจากกล้องดิจิตอล นั้น มาเปิดดูข้อมูลของภาพในคอมพิวเตอร์ ซึ่งมันจะบันทึกไว้หมด ว่าถ่ายเมื่อไหร่ อย่างไร และมีการเปลี่ยนแปลงภาพด้วยหรือเปล่า ? แค่นี้ก็รู้ความจริงแล้วครับ และ ภาพผีเปรตนี้ มาจากหน้าปกหนังสือ “เปรตมีจริง” โดย น.นันทมุนี ตัวเดียวกันเป๊ะ