ทนายตั้ม ชิงเข้าพบ จนท.ก่อนโดนหมายจับ เผย มีตำรวจดักซุ่มอยู่หน้าบ้าน

วันที่ 5 พ.ย. 2567 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้เดินทางมาที่กองปราบ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีตำรวจมาตามผม และเมื่อเช้าก็มีรถตำรวจมาจอดหน้าบ้านผม 3 คัน ซึ่งผมก็ได้เข้าไปคถยกับเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าจะเข้ามาตรวจสอบ ก็เข้ามาได้เลย

ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนเกิดความไม่สบายใจ ที่ผ่านมาก็อยากให้ฝ่ายผู้กล่าวหา หรือ พี่อ้อย ให้การได้อย่างเต็มที่ก่อน แต่ ตำรวจกองปราบดำเนินการอย่างเต็มที่เช่นกัน

“การที่ไปเอาตัวพยาน โดยไม่มีหมาย เอาตำรวจไปหน้าบ้าน ถ้าเขาบอกที่เขามา เขาไม่ยินยอมขึ้นมา คนที่ไปอุ้มตัวเขา อาจจะโดนฟ้องได้ในอนาคต ทำอะไีทำให้มันถูกต้อง มีหมายเขาก็ไปแล้ว”

เงิน 71 ล้าน

ทนายตั้ม กล่าวว่า ผมพูดไปแล้ว ผมก็ยืนยันในคำพูดของผม แล้วก็เชื่อว่าตำรวจกองปราบก็น่าพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร กับการสอบผู้กล่าวหาและพยานในหลายวันที่ผ่านมา ต้องมีจุดที่ตำรวจกองปราบน่าจะต้องพอรู้ได้แล้วว่า เรื่องราวข้อเท็จจริงเป็นยังไง

• เอาอีก! เพจดังเปิดหน้า ตัวละครของ ‘ทนายตั้ม’ หลอกเจ๊อ้อย โอน 39 ล้าน
• ลือสะพัด! จ่อออกหมายจับ ‘ทนายตั้ม’ หลัง ‘พี่อ้อย’ สอบปากคำเป็นวันที่ 3
• เพจดัง รวบรวม 16 วีรกรรม ทนายคนดัง หลังถูกจองกฐินยาวเป็นหางว่าว

รถเบนซ์ 13 ล้าน

ทนายตั้ม กล่าวว่า ส่วนเรื่องอื่นๆเช่นรถและเงิน 9 ล้านบาท เรื่องพวกนี้จะไปเป็นเรื่อง “ฉ้อโกง” ได้ยังไง เพราะว่า “เมื่อก่อนผมเป็นที่รัก เป็นน้องรักเขา” ให้ผมทำทุกโครงการแล้วผมก็ทำใบเสนอราคา ส่งมอบทุกอย่างตามที่เขาต้องการทุกอย่าง ตอนนี้พอเค้าไม่รักผมแล้วเขาก็ดึงเรื่องรู้เรื่องนี้มา

ถ้าเกิดไม่เข้า ฉ้อโกง ผมต้องมีเจตนาที่จะหลอกเค้าสิ อันนี้ผมส่งงานตามที่เค้าต้องการทั้งหมด เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวก็สามารถที่จะค้นได้นะว่า รถเบนซ์ G-400 ราคาในตลาดตอนนี้มันอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ส่วน ไฟแนนซ์ เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ถ้าเค้าเอาเอกสารการจดทะเบียนไปค้นหาก็จะเห็นได้ว่าชื่อของคันนี้ไปเป็นของใคร

เงิน 39 ล้าน

ทนายตั้ม กล่าวว่า ผมไม่รู้ว่า พี่อ้อยจะให้การเป็นแบบนี้ แต่ว่าทุกสิ่งทุกข้อมูลที่ผู้สื่อข่าว ได้มาไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงทั้งหมด