เหตุประท้วงต่อต้าน รัฐประหาร ในเมียนมายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในเมืองต่างๆ ทั้งในกรุงเนปิดดอร์ เมืองย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 และยังคงมีประชาชน ข้าราชการ บุคลากรจากหลากหลายอาชีพ ไปจนถึงพระสงฆ์เข้าร่วมการชุมนุม อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ประท้วงจะดูบางตาลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่กองทัพใช้มาตรการรุนแรงขึ้น ในการปราบปรามการชุมนุม ด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง ใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยางสลายการชุมนุม

การประท้วงในวันนี้ดำเนินต่อไป แม้ว่ากองทัพเมียนมาเพิ่งแก้กฎหมายความมั่นคง ที่เปิดทางให้ตำรวจบุกค้นบ้านเรือน และเข้าจับกุมประชาชนได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ หรือหมายค้น พร้อมขู่ลงโทษจำคุกกว่า 20 ปี กับผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุม
กองทัพ ยกระดับปราบ เหตุประท้วงเมียนมา ขู่ประชาชน เจอโทษกว่า 20 ปี หากเข้าร่วมการชุมนุม
สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีคว่ำบาตรกลุ่มผู้ก่อ รัฐประหารในเมียนมา ขณะที่มิน อ่อง หล่าย วอนข้าราชการกลับมาทำงาน
ขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ยกระดับการชุมนุม ด้วยการปักหลักบริเวณรางรถไฟเพื่อขัดขวางเส้นทางการเดินรถไฟ ซึ่งทำให้เส้นทางรถไฟระหว่างเมืองย่างกุ้ง และเมืองมะละแหม่งถูกปิดกั้น

ไป่ ทาคน ห่วงเหตุประท้วง หลังเมียนมาแก้กฎหมาย เปิดทางให้ตร.จับกุมได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ
ด้านนางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐ วัย 75 ปี ที่ยังคงถูกกองทัพควบคุมตัวหลังรัฐประหาร ได้ถูกดำเนินข้อหาเพิ่มฐานละเมิดกฎหมายภัยพิบัติแห่งชาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกตั้งข้อหาลักลอบนำเข้าวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมาย โดยนางซูจีมีกำหนดขึ้นศาลผ่านวิดีโอคอลในคดีดังกล่าวในวันที่ 17 ก.พ.64 นี้
ขอบคุณภาพ DVB TV News