นายซูเฮล ชาฮีน โฆษของกลุ่ม ตาลีบัน เปิดเผยกับสื่อต่างประเทศว่าหากสหรัฐฯและกลุ่มประเทศพันธมิตรยังคงอยู่ในอัฟกานิสถานต่อเพื่ออพยพพลเรือนและชาวอัฟกันต่อไป เกินกว่าที่ขีดเส้นตายไว้ในวันที่ 31 ส.ค.2564 กลุ่มตาลีบันจะไม่ประณีประณอมอีกต่อไป และขู่ว่าสหรัฐฯจะต้องเผชิญกับผลของการกระทำดังกล่าวด้วย โดยหลังสิ้นเดือนส.ค. กองกำลังสหรัฐฯจะต้องถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานทั้งหมด
คำกล่าวของโฆษกกลุ่มตาลีบันมีขึ้น ในช่วงที่ยังเกิดความวุ่นวายภายในสนามบินกรุงคาบูล เนื่องจากยังคงมีชาวอัฟกันและพลเรือนต่างชาติ ที่ยังคงเร่งเดินทางออกหนีออกจากอัฟกานิสถานอย่างต่อเนื่อง หลังกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองพื้นที่และอำนาจในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยเหตุความโกลาหลภายในสนามบินส่งให้มีเหตุเหยียบกันตาย ถูกล้อเครื่องบินแล่นทับ และตกจากเครื่องบิน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 20 ราย
ด้านกลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรปและอังกฤษระบุว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะอพยพประชาชนออกมาจากอัฟกานิสถานได้ทันภายในวันที่ 31 ส.ค. นี้ ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสำหรัฐฯถูกกดดันจากหลายฝ่ายให้ต้องหางทางเจรจรา เพื่อขยายเส้นตายอพยพชาวอัฟกันและพลเรือนต่างชาติออกจากอัฟกานิสถาน
ขณะเดียวกันนายอาลี นาซารี หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ต่างประเทศจากกลุ่มแนวหน้าต่อต้านแห่งชาติ หรือ เอ็นอาร์เอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มต้านตาลีบันได้เปิดเผยกับทางสำนักข่าวบีบีซีว่า ต้องการเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างสันติกับกลุ่มตาลีบัน และแม้ว่าหากการเจรจาเพื่อหาทางออกกับกลุ่มตาลีบันจะไม่เป็นผล ทางกลุ่มก็จะไม่มีทางยอมรับวิธีการที่แข็งกร้าวอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ทางกลุ่มแนวร่วมต่อต้านแห่งชาติยังอ้างด้วยว่า ขณะนี้มีกองกำลังหลายมื่นคน ที่พร้อมร่วมต่อต้านกลุ่มตาลีบัน แต่ทางกลุ่มยังคงยืนยันว่าจะขอใช้วิธีการเจรจาอย่างสันติเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามและความขัดแย้ง
ขอบคณภาพ UK Ministry of Defense