จากกรณีที่ ติช นัท ฮันห์ พระภิกษุชาวเวียดนาม ชื่อดัง ที่ได้ละสังขารอย่างสงบที่วัดตื่อฮิ้ว ในเมืองเว้ของเวียดนามด้วยวัย 95 ปี ทั้งนี้ ติช นัท ฮันห์ นอกจากจะเป็นพระภิกษุแล้ว ยังเป็นนักเขียน นักต่อสู้เพื่อสันติภาพ ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านพลัม ในฝรั่งเศส ซึ่งติช นัท ฮันห์ ยังได้รับฉายาว่าเป็นบิดาแห่งการตื่นรู้ด้วย
ในส่วนของประวัติส่วน ติช นัท ฮันห์ เกิดเมื่อปี 1926 บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี ที่วัดตื่อฮิ้ว จากนั้นได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุ 23 ปี ได้เดินทางไปเมืองไซ่ง่อนเพื่อฟื้นฟูพุทธศาสนาและเขียนบทความ แต่กลับถูกต่อต้านจากผู้นำองค์กรชาวพุทธและรัฐบาลในเวลานั้น

ต่อมาในช่วงปี 1960 ติช นัท ฮันห์ได้ลี้ภัยจากเวียดนาม และไปอยู่ที่ฝรั่งเศส หลังจากแสดงจุดยืนต่อต้านสงครามเวียดนามในยุคนั้น โดยที่ลี้ภัยนั้น ติช นัท ฮันห์ ได้พบกับมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ซึ่งเป็นศาสนาจารยและนักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันชื่อดัง โดยติช นัท ฮันห์ยังได้เชิญมาช่วยพูดต่อต้านปมความขัดแย้งของสงคราม
ในเวลาต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ คิงได้เสนอชื่อติช นัท ฮันห์เข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ พร้อมกับยกย่องเขาให้เป็นผู้เผยแพร่สันติภาพและอหิงสา ทั้งนี้ ติช นัท ฮันห์ลี้ภัยในฝรั่งเศสนานหลายสิบปี จากนั้นก็ได้ตั้งศูนย์คณะสงฆ์และสมาธิในประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามหมู่บ้านพลัม

ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ ติช นัท ฮันห์ได้เขียนหนังสือมากกว่า 100 เล่ม ซึ่งได้รับการแปลมากกว่า 40 ภาษา โดยหนังสือเล่มสุดท้ายของเขาได้รับการตีพิมพ์เมื่อเดือนต.ค.2021 นอกจากนี้ ติช นัท ฮันห์ยังได้เดินทางไปบรรยายในประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯเพื่อเผยแพร่คำสอนเรื่องการตื่นรู้ อีกทั้งยังได้ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยชุมชนการปฏิบัติธรรมแต่ละแห่ง จะมีวิถีการฝึกปฏิบัติเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม และดำเนินชีวิตในวิถีที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยเลือกรับประทานอาหารมังสวิรัติ งดนมและผลิตภัณฑ์จากนม งดบริโภคไข่ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและลดมลภาวะต่างๆ ที่เกิดจากการเลี้ยงปศุสัตว์ ทั้งยังมีการฝึกปฏิบัติ ‘วันงดใช้รถ’ หรือ Car Free Day เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
อย่างไรก็ดี การออกมาเคลื่อนไหวทางแนวคิดของติช นัท ฮันห์มักไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของเวียดนาม โดยเมื่อปี 2009 สำนักนิกายเซ็นของเขาถูกรัฐบาลเวียดนามสั่งปิด อย่างไรก็ดี รัฐบาลให้อนุญาตให้ติช นัท ฮันห์เดินทางกลับมาอยู่ในเวียดนามในช่วงบั้นปลายชีวิต เมื่อปี 2018 ที่วัดตื่อฮิ้ว โดยในเวลานี้ ทางการเวียดนามยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีใดต่อพิธีศพของติช นัท ฮันห์ ซึ่งมีกำหนดจัดพิธีเป็นเวลา 5 วัน

ขอบคุณภาพ Thich Nhat Hanh