คดีฉาว บาบิส นักบินกรีซ จัดฉากกุเรื่องโดนโจรปล้นบ้าน ฆ่าภรรยาพร้อมแขวนคอสุนัขฮัสกี้วัย 7 เดือน สุดท้ายจนมุม เจ้าหน้าที่พบหลักฐานจากสมาร์ทวอช
เรียกได้ว่าเป็นคดีดังสุดอื้อชาวที่ถูกรายงานโดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักสำหรับคดีของ บาบิส อนาโนสโตปูลอส นักบินกรีซ วัย 33 ปี ที่จัดฉากยิ่งกว่าละครใหญ่หลังจากก่อเหตุฆาตกรรม แคโรไลน์ เคราช์ หญิงชาวอังกฤษ วัย 20 ปี ภรรยาของเขาพร้อมกับสุนักที่เลี้ยงไว้วัย 7 เดือน โดยเขาได้กุรื่องว่าในคืนวันเกิดเหตุมีกลุ่มโจรต่างชาติบุกเข้ามาปล้นฆ่า ก่อนจำนนต่อหลักฐานจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้ทั้งหมดเป็นฝีมือของตัวเอง
โดย “แคโรไลน์” (Caroline Crouch) เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์-อังกฤษ แม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ ส่วนพ่อเป็นทหารช่างชาวอังกฤษ เธอเกิดที่ประเทศอังกฤษ แต่พออายุ 8 ขวบก็ย้ายตามพ่อแม่ไปอยู่ที่เกาะอลอนนิซอส ประเทศกรีซ โดยแม่ทำธุรกิจบริการทำความสะอาดบนเกาะ

ในปี 2018 แคโรไลน์ซึ่งอายุ 17 ปี ได้พบกับ “บาบิส” (Babis Anagnostopoulos) หนุ่มกรีซวัย 30 ซึ่งเป็นนักบินการบินพลเรือนและครูสอนการบิน เขามาท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่เกาะอลอนนิซอส ทั้งสองตกหลุมรักกันและสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา
เมื่อความรักสุกงอม ในปี 2019 ทั้งคู่บินไปแต่งงานกันถึงโปรตุเกส และกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหรูย่านชานเมืองในกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ4- ในปี 2020 แคโรไลน์ให้กำเนิดลูกสาวชื่อ “ลีเดีย” (Lydia) บาบิสยังซื้อน้องหมาฮัสกี้ให้เป็นของขวัญแก่ภรรยาด้วย พวกเขาร่วมสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกัน
เช้าวันที่ 11 พฤษภาคม 2021 ตำรวจได้รับสายด่วนฉุกเฉินจากบ้านของบาบิสและแคโรไลน์ เมื่อตำรวจรุดไปถึงก็พบร่างไร้ลมหายใจของแคโรไลน์นอนอยู่ข้างลูกสาววัย 11 เดือนที่กำลังร้องไห้จ้า สภาพศพของเธอถูกรัดคอจนเสียชีวิต
ส่วนบาบิส ตำรวจพบเขานอนอยู่บนพื้น ถูกมัดมือทั้งสองข้าง มีเทปพันสายไฟปิดตาปิดปากเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบลูกสุนัขฮัสกี้อายุ 7 เดือน ถูกกดจมน้ำจนตายแล้วเอาไปแขวนคอไว้ที่ราวบันได

เมื่อตำรวจแกะเทปที่ปิดตาให้บาบิส เขาถึงกับช็อกที่พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว บาบิสให้การกับตำรวจว่าเวลาประมาณตี 5 มีโจรซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 3 คนบุกเข้ามาในบ้าน พวกมันจับเขามัดติดกับเตียงแล้วเอาปืนจ่อหัวลูกสาวของเขา เพื่อขู่ให้บอกที่ซ่อนเงิน
บาบิสขอร้องไม่ให้พวกมันทำร้ายแคโรไลน์กับลูก ก่อนบอกที่เก็บเงินให้ ตอนนั้นเขามีเงินสดติดบ้านอยู่ 10,000 ปอนด์ (ประมาณ 4 แสนกว่าบาท) ซึ่งเป็นเงินที่เขาเตรียมไว้ให้ช่างก่อสร้างที่จ้างมาทำงานในที่ดินของครอบครัวที่เพิ่งซื้อมา
พวกโจรเอาเทปพันสายไฟมาปิดตาปิดปากและรัดที่คอของบาบิส ทำให้เขาหายใจไม่ออกจนหมดสติไป คาดว่าหลังจากนั้นพวกมันก็เข้าไปเอาเงินและเครื่องประดับ แล้วถอดเมมโมรี่การ์ดในกล้องวงจรปิดทิ้งก่อนหลบหนีไป
เมื่อฟื้นขึ้นมา บาบิสกระเสือกกระสนจนสามารถหยิบมือถือมากดเบอร์ฉุกเฉินได้อย่างทุลักทุเล โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตอนนั้นแคโรไลน์ถูกพวกมันรัดคอจนตายแล้ว
สื่อมวลชนกรูไปรอที่หน้าบ้านของบาบิส เขาเดินออกมาให้สัมภาษณ์สื่อด้วยอาการช็อกและหัวใจสลาย แต่ก็ยังแสดงความเชื่อมั่นว่าตำรวจจะสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้

วันที่ 14 พฤษภาคม พิธีศพของแคโรไลน์ถูกจัดขึ้นที่เกาะอลอนนิซอส ภาพบาบิสอุ้มลูกน้อยไปร่วมงานศพของภรรยาสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวกรีซเป็นอย่างมาก
บาบิสกล่าวคำอาลัยในพิธีศพว่าเขาโชคดีเหลือเกินที่ได้รู้จักแคโรไลน์ ได้รักเธอ และได้แบ่งปันช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกัน สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจมากอีกอย่างก็คือ ลูกสาวของเขากับแคโรไลน์กำลังจะเติบโตขึ้นโดยไม่สามารถจดจำความงดงามของผู้เป็นแม่ได้

บาบิสปาดน้ำตาขณะกล่าวเตือนใจแขกที่มาร่วมงานว่า ขอให้ทุกคนดูแลคนที่รักให้ดีที่สุดและใช้เวลาร่วมกันในขณะที่ยังมีโอกาส ทำให้คนพากันร้องไห้ไปกับเขาด้วย
วันที่ 16 พฤษภาคม บาบิสโพสต์ภาพวันแต่งงานของเขากับแคโรไลน์ลงในอินสตาแกรม พร้อมข้อความ “เราจะอยู่ด้วยกันเสมอ เดินทางดี ๆ นะสุดที่รักของผม” มีคนเข้าไปร่วมแสดงความเสียใจและกดไลก์จำนวนมาก

ตำรวจตั้งเงินรางวัลสำหรับคนให้เบาะแสฆาตกรสูงถึง 260,000 ปอนด์ (กว่า 11 ล้านบาท) และการที่บาบิสบอกว่าโจรเป็นคนต่างชาติ ตำรวจเลยพุ่งเป้าไปที่ผู้อพยพ มีชาวจอร์เจียและอัลบาเนียถูกนำตัวมาสอบปากคำ ทำให้เกิดกระแสหวาดระแวงผู้อพยพไปทั่ว คนเริ่มตั้งคำถามถึงนโยบายเปิดรับผู้อพยพว่าทำให้พลเมืองไม่ปลอดภัยหรือไม่
วันที่ 17 มิถุนายน มีการจัดพิธีไว้อาลัยและรำลึกถึงแคโรไลน์ที่เกาะอลอนนิซอส บาบิสไปร่วมพิธีและสวมกอดแม่ของแคโรไลน์อย่างปลอบประโลม กลายเป็นอีกภาพน่าสะเทือนใจ

ในเวลาเดียวกันตำรวจแจ้งบาบิสว่าจับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว และเชิญตัวเขาไปชี้ตัวผู้ต้องสงสัย โดยส่งเฮลิคอปเตอร์มารับเขาถึงเกาะ ทันทีที่ถึงเอเธนส์ ตำรวจก็บอกบาบิสว่าผู้ต้องสงสัยคนนั้นก็คือตัวเขาเอง บาบิสตกใจมาก เขายืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าแคโรไลน์ ทำไมตำรวจจึงมั่นใจว่าบาบิสเป็นคนสังหารภรรยาตัวเอง นี่คือข้อสังเกตและหลักฐานต่าง ๆ ที่ตำรวจได้จากการทำงานหนักถึง 37 วัน
บาบิสให้การกับตำรวจว่าโจรบุกเข้ามาในบ้านตอนตี 5 แต่นาฬิกาฟิตเนสที่แคโรไลน์สวมอยู่ซึ่งสามารถจับชีพจรและวัดการเต้นของหัวใจได้ ชี้ชัดว่าหัวใจของเธอหยุดเต้นก่อนเวลาตี 5 หลายชั่วโมง บาบิสอ้างว่าโจรถอดเมมโมรี่การ์ดกล้องวงจรปิดทิ้งก่อนหลบหนี แต่ตำรวจพบข้อมูลจากกล้องว่าการ์ดถูกถอดออกไปตั้งแต่เวลาตี 1 กว่า ๆ บาบิสติดตั้งแอปพลิเคชั่นวัดฝีเท้าเอาไว้ในมือถือ และแอปนี้แสดงให้เห็นว่าบาบิสมีการเคลื่อนที่ซ้ำ ๆ จากห้องใต้หลังคาไปยังห้องใต้ดินในเวลาตี 5 ซึ่งเป็นเวลาที่เขาอ้างว่าถูกจับมัดติดกับเตียง
ตำรวจพบไดอารี่ที่แคโรไลน์เขียนไว้ ว่าเธอกับบาบิสมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นหลังคลอดลูก ทั้งสองทะเลาะกันบ่อยครั้ง แคโรไลน์เขียนบันทึกว่าเธอวางแผนจะพาลูกไปอยู่กับพี่สาว และยังเขียนด้วยว่าเธอรักบาบิสมาก แต่ความสัมพันธ์นี้ทำร้ายเธอเหลือเกิน พบหลักฐานว่าคืนนั้นแคโรไลน์พยายามจองโรงแรมเพื่อจะพาลูกไปพักที่นั่น พบข้อความที่แคโรไลน์ส่งไปต่อว่าบาบิสว่า “โง่” ในคืนเกิดเหตุ
หลังใช้เวลาสอบเค้นนานถึง 8 ชม. ประกอบกับหลักฐานที่มัดตัว ทำให้ในที่สุดบาบิสก็ยอมเปิดปากสารภาพว่าเขาเป็นคนสังหารภรรยาจริง
บาบิสเล่าว่าคืนนั้นเขากับแคโรไลน์ทะเลาะกัน โดยเขาอยู่ที่ห้องใต้ดิน ส่วนแคโรไลน์อยู่กับลูกบนห้องใต้หลังคา สองสามีภรรยาส่งข้อความต่อว่ากันไปมา ระยะหลังเวลาทะเลาะกัน แคโรไลน์ชอบขู่ว่าจะหย่ากับเขาและจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง คืนนั้นเธอก็พูดอีก ทำให้เขาโกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ด้วยความโมโหเขาเดินไปปิดกล้องวงจรปิด ดึงเมมโมรี่การ์ดออกมาทิ้ง แล้วพุ่งขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคา ทั้งคู่มีปากเสียงกันรุนแรง เขาผลักเธอลงบนเตียงแล้วบีบคอเธอจนขาดใจตายต่อหน้าลูก
หลังได้สติ เขาไม่อยากให้ลูกเติบโตมาและรู้ว่าพ่อเป็นคนฆ่าแม่ อีกทั้งเขาไม่อยากติดคุกเพราะต้องการเลี้ยงลูกต่อไป จึงวางแผนอำพรางคดี จัดฉากต่าง ๆ เช่น ฆ่าหมา รื้อค้นข้าวของ และมัดตัวเอง วันที่ 18 มิถุนายน บาบิสถูกนำตัวขึ้นศาลโดยเขาต้องสวมเสื้อเกราะกันกระสุน เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมภรรยาและฆ่าสัตว์เลี้ยง คดีนี้กลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ของกรีซ ผู้คนให้ความสนใจติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เมื่อความจริงเปิดเผยคนถึงกับช็อก และพากันย้อนกลับไปดูการแสดงที่แนบเนียนของบาบิส ทั้งตอนที่เขาให้สัมภาษณ์สื่อ คำกล่าวกินใจในงานศพ โพสต์ไว้อาลัย หรือแม้แต่การกอดปลอบใจแม่ยาย

ข้อมูล/ภาพจาก : Poetry of Bitch
ข่าวที่น่าสนใจ
ฟิลิปปินส์ เดินหน้าเต็มกำลัง ดีลวัคซีน “ไฟเซอร์” 40 ล้านโดส และอื่นๆรวมกว่า 113 ล้านโดส
หมอธีระวัฒน์ เผย วิกฤติปัญหาสาธารณสุข พร้อมย้ำ ได้วัคซีนครบสองอย่าทนง
นายกตั้งเป้า จะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ได้เที่ยวภูเก็ต นักท่องเที่ยวเข้าง่ายโดยไม่ยุ่งยาก