เตี้ยมปรับ นายกไม่ใส่แมสก์ – นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ว่า การระบาดของโควิดในรอบที่สามนี้ นับเป็นจุดของความหายนะของประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งเกิดขึ้นโดยผู้นำสูงสุดชื่อประยุทธ์ และไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรออกมาเลย การปรับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใส่แมสก์ระหว่างเป็นประธานการประชุมโควิดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 เม.ย.นั้น เป็นการฝ่าฝืนระเบียบของ กทม. จึงต้องถูกปรับในอัตรา 6,000 บาท
“เชื่อว่า คงเป็นการเตี๊ยมกันไว้แน่นอน ไม่เชื่อว่า ผู้ว่า กทม.จะกล้าลงมือเปรียบเทียบปรับพล.อ.ประยุทธ์ 6,000 บาท ซึ่งดูเสมือนเป็นการรับผิดชอบ ทั้งที่ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย แต่เกิดจากเหตุความสะเพร่า เลอะเลือน จึงต้องจัดฉากตามหลัง เพื่อบอกถึงการแสดงความรับผิดชอบแล้ว ความรับผิดชอบ ไม่ใช่การจ่ายค่าปรับ 6,000 บาท แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบเต็มที่ เพราะเป็นคนประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ดึงอำนาจอื่นใดที่อยู่ภายใต้กำกับของรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับโควิด มาอยู่ที่พลบ.อ.ประยุทธ์ และ ศบค.ทั้งหมด”

พร้อมทั้งยังกล่าวว่า ปรากฎการณ์กลุ่มหมอไม่ทนล่ารายชื่อให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล พ้นจาก รมว.สาธารณสุขนั้น ไม่แฟร์ เพราะคนทื่มีอำนาจสูงสุดคือพล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบและต้องถูกไล่เป็นอันดับที่ 1 แล้วนายอนุทิน เป็นอันดับที่ 2 แต่สิ่งแปลกประหลาดคือ ไม่แตะต้องนายกฯในฐานะคนรับผิดชอบโดยตรงเลย จึงทำให้คอการเมืองสงสัยที่คนหนึ่งเป็นแพะ แต่อีกคนหนีความรับผิดชอบไป คนมีอำนาจเต็มตาม พรก.ฉุกเฉิน ไม่รับผิดชอบอะไรเลย รับผิดชอบอย่างเดียวคือเวลาพูดไม่ต้องใส่หน้ากาก แล้วจ่ายค่าปรับ 6,000บาท และได้รับคำสรรเสริญเยินยอ ทั้งที่เป็นความโหลยโท่ยทั้งหมด ตั้งแต่การบริหารจัดการวัคซีนที่ไม่มี รมต.สาธารณสุขมารับผิดชอบ ก็เป็นความแปลกประหลาดแล้ว การเข้าชื่อไล่นายอนุทินนั้น ไม่ได้หมายความว่า คนไทยจะลืมพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีอำนาจสูงสุดไป ดังนั้นความล้มเหลวทั้งหมด ไม่ว่าการบริหารวัคซีน และพื้นที่การ์ดตกทั้งหลาย ทั้งบ่อนการพนัน ผับบาร์ สนามมวย ก็อยู่ภายใต้การดูแลของประยุทธ์ทั้งสิ้น ซึ่งได้เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรหรือไม่
ประเทศไทยจึงอยู่ในสภาพทุกอย่างสายไปหมด ถูกสร้างให้เกิดความกลัวจากโควิด ทั้งที่ความตายจากความเจ็บป่วยเป็นอาการปกติ เมื่อมีความตายเกิดขึ้นจึงต้องพิสูจน์ว่า ความตายที่ผิดธรรมชาติเกิดจากโควิดจริงหรือไม่ หรือเกิดจากโรคอื่นใด วันนี้ตายตั้ง 15 ราย ยิ่งทำให้เกิดความกลัวไปกันใหญ่ เพราะความกลัวจากโควิด ได้ทำลายรากฐานทางเศรษฐกิจอย่างยับเยิน ประเทศอยู่ในสภาพล้มละลาย เมื่อการบริหารของประยุทธ์สะท้อยนชัดเจนว่า ไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้แล้ว ทำไมไม่ทำเรื่องขอเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อรายงานสถานการณ์โควิดที่เป็นจริงและขอพระราชทานคำแนะนำจากพระเจ้าแผ่นดิน โดยอยู่ภายใต้กลไกประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ซึ่งหลายคนมีความสงสัย

ขอบคุณข้อมูลจาก Thailand Vision