สาวคลั่ง! สังหารโหดพ่อตัวเอง ด้วยขวานเจาะน้ำแข็ง หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ แถมยังตบมือชอบใจ อ้างทำ เพื่อปลดปล่อย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สื่อต่างประเทศได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ ผู้จัดการสาวของบริษัทบลูออริจิน ที่ชื่อว่า คอรีย์ เบิร์ค โดยเธอได้ใช้ขวานเจาะน้ำแข็งสังหารพ่อของตัวเองในคืนวันเลือกตั้ง หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ โดยเธออ้างว่าเป็น “การกระทำเพื่อการปลดปล่อย”
เบิร์ควัย 33 ปี โดนกล่าวหาว่าลงมือทำร้ายร่างกายพ่อวัย 67 ปีของเธอด้วยการรัดคอ กัด และฟันด้วยขวานเจาะน้ำแข็ง เหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านที่ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเธออยู่ในสภาพที่มีเลือดของผู้ตายเปื้อนทั้งตัว แต่ยังคงยิ้มแย้มและตบมือชอบใจในการกระทำของตัวเอง
ผู้จัดการสาวให้การแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ลงมือฆ่าพ่อตัวเองโดยตั้งใจจะให้เป็นการ “ช่วยเหลือคนอื่น ๆ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานะที่ผูกติดอยู่กับพ่อแม่ตัวเอง” และอ้างว่า “ต้องลงมือทำในวันนี้เลย”
ก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า ที่เธอสติหลุดและลงมือสังหารทิโมธี เบิร์ค พ่อผู้ให้กำเนิด เพราะไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุด เมื่อทรัมป์สามารถเอาชนะกมลา แฮร์ริสได้อย่างง่ายดาย เธอเดินขึ้นไปหยิบขวานเจาะน้ำแข็งที่ชั้นบนของบ้าน ย่องไปหาพ่อของเธอ จากนั้นก็รัดคอและกัดเขา ก่อนที่จะใช้ขวานจามลงไปที่ร่างของเขาหลายครั้ง แล้วจึงนั่งดูเขาสิ้นใจไปในที่สุด สุดท้ายเธอลุกขึ้นไปทุบกระจกหน้าต่างในบ้านจนแตกทุกบาน ซึ่งเธอบอกว่าเป็นการกระทำ “เพื่อการปลดปล่อย”
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ เบิร์คเดินออกจากบ้านพร้อมกับยกมือขึ้นและมีเลือดเปื้อนที่ใบหน้า แต่เธอบอกว่า ไม่รู้ว่าเลือดมาจากไหนหรือใครเป็นคนทุบหน้าต่างในบ้าน
ต่อมา เธอจึงอธิบายถึงการทะเลาะกับพ่อของเธอเรื่องปิดไฟในบ้าน และในที่สุดก็กระซิบบอกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งว่า “ฉันฆ่าเขาเองแหละ” ปัจจุบัน เธอถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาและอยู่ระหว่างคุมขังโดยมีวงเงินประกันตัว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 70 ล้านบาท)