เปิดใจหนุ่ม นักศึกษาครึ่งท่อน โพสต์ขอที่ฝึกงานก่อนจบ หวังหาประสบการณ์ฝึกฝีมือเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเอง
จากกรณีที่มีกระแสบนโลกโซเชียลผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Chatree Konwatcharathada” ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความขอสถานที่ฝึกงาน
“สวัสดีครับ ผมชื่อ ต๊อด ตอนนี้ผมเรียนช่างยนต์อยู่ครับแล้วเดือนตุลาคมนี้ ผมต้องไปฝึกงานตามอู่หรือศูนย์บริการซ่อมละครับแต่ผมอาจจะไม่เหมือนช่างทั่วๆไปตรงที่ว่าผมมีเเค่ครึ่งท่อน ไม่ทราบว่าพอจะมีอู่หรือศูนย์บริการซ่อมที่ไหน รับผมฝึกงานบ้างครับ ขอเป็นอู่ซ่อมเตอร์ไซค์ครับ”
ปรากฏว่าหลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ได้มีชาวเนตเข้ามาให้กำลังใจและมีสถานประกอบการหลายแห่งเสนอให้ไปฝึกงานได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
ล่าสุดผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายชาตรี วัชรธาดา อายุ 22 ปี หรือ น้องต๊อด ที่หอพักไม่มีชื่อบ้านยวม ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งน้องต๊อดก็ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพ่อกับแม่เป็นชาวไทใหญ่ ย้ายเข้ามาประเทศไทยได้ 10 ปี มีพี่น้อง 5 คน ตนเองเป็นคนที่ 3 พิการมาตั้งแต่กำเนิด ไม่มีอวัยวะช่วงล่าง และ มือข้างขวามีเพียง 3 นิ้วเท่านั้น ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับน้องชายฝาแฝด ที่หอพักแห่งนี้ด้วยกัน 3 คน ส่วนพี่ชายและพี่สาวได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนคุณแม่ก็อาศัยอยู่ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ผ่านมาได้ไปช่วยแม่ขายของเป็นประจำ

ที่ตัดสินใจเรียนเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ก็เพราะว่าชื่นชอบแลมองว่าเป็นความท้าทาย แม้จะมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แต่ก็อยากจะก้าวข้ามขีดความสามารถและเพื่อเป็นอาชีพหาเลี้ยงตนเองในอนาคต ขณะที่อุปสรรคทางร่างกายไม่ได้ทำให้เกิดความท้อแท้ แต่กลายเป็นแรงผลักดันให้มีความมุ่งมั่นมากขึ้น


น้องต๊อด บอกว่า ที่โพสต์หาที่ฝึกงาน ก็เผื่อจะมีพี่ ๆ ที่ให้โอกาสได้ฝึกงาน ที่ผ่านมาตนเองไม่ค่อยกล้าออกไปหาที่ฝึกงานเองตามหน้าร้าน เพราะกลัวจะถูกปฏิเสธหากเห็นว่าตนเองร่างกายพิการ ส่วนกระแสตอบรับที่เกิดขึ้นก็ตกใจ เพราะไม่คิดจะมีคนมาให้ความสนใจมากขนาดนี้

น้องต๊อด บอกด้วยว่า อยากได้ร้านที่เปิดโอกาสให้ตนเองได้ทำงานอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพราะเพียงสงสาร และ ตนเองก็เต็มใจที่จะลงไปคลุกคลีกับรถ อย่าเพิ่งตัดสินว่าตนเองทำไม่ได้ ไม่ใช่ให้ไปนั่งเฉยๆแล้วผ่าน ตนต้องการจะได้ประสบการณ์จริงๆ และ อยากใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเอง
ด้าน นายบัญชา คุนา อาจารย์ที่ปรึกษา เผยว่า น้องต๊อดเรียนอยู่สาขาวิชาช่างยนต์ ปวช.2 เป็นหลักสูตรทวิภาคีที่จะใช้เวลาเรียนหนึ่งปีครึ่งและฝึกงานอีกหนึ่งปีครึ่ง ซึ่งการฝึกงานมีความจำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ โดยน้องต๊อดและเพื่อนๆ จะต้องเริ่มฝึกงานปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

ก่อนหน้านี้น้องต๊อดและทางวิทยาลัยได้ติดต่อไปยังสถานประกอบการหลายแห่ง เกือบทั้งหมดบอกว่าเห็นใจ แต่สุดท้ายก็ได้รับการปฏิเสธ โดยสถานประกอบการระบุถึงเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้ง การเดินทางไปฝึกงานและความปลอดภัยในสถานประกอบการ เพราะหลายแห่งอ้างว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้พิการได้และถึงแม้จะไม่มีสถานประกอบการรับเข้าฝึกงาน แต่ทางวิทยาลัยก็เปิดให้น้องต๊อดฝึกงานตามหลักสูตรภายในมหาวิทยาลัยได้ แต่น้องต๊อดก็มีความต้องการที่จะออกไปฝึกงานข้างนอกเพื่อหาประสบการณ์ โดยหลังจากที่ได้โพสต์ออกไป ปรากกฏว่ามีสถานประกอบการหลายแห่งยินดีรับน้องเข้าฝึกงาน

อย่างไรก็ตามทางวิทยาลัยจะต้องตรวจสอบและคัดกรองสถานประกอบการเพื่อให้เหมาะสมกับน้องต๊อดและที่ผ่านมาแม้จะพิการทางร่างกาย แต่มีจิตใจนักสู้ ที่ผ่านมามีความขยันมุ่งมั่น เรียนรู้ในสาขาวิชาจนมีความรู้ความสามารถไม่แพ้กับคนปกติ ทุกคนทั้งครูอาจารย์และเพื่อน ๆ ชื่นชมและยกย่องในความพยายามและจะให้การดูและสนับสนุนอย่างเต็มที่จนจบหลักสูตร