“ซ้อลักษณ์” พร้อมมูลนิธิรณรงค์ฯ บุก กระทรวงมหาดไทย ยื่นหนังสือถึง “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ปม ถูกปลอมชื่อไปก่อตั้งมูลนิธิ พร้อมแฉคลิปเสียงเด็ด
วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.30 น. “ซ้อลักษณ์” พร้อม มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายกองเอก ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมเอกสารหลักฐาน ปม การดำเนินการจัดตั้งและการดำเนินกิจการของ “มูลนิธิเป็นหนึ่ง” เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่


เนื่องจาก “ซ้อลักษณ์” ได้ไปแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถูกปลอมแปลงลายมือชื่อไปจัดตั้งมูลนิธิ และมีเอกสารข้อมูลอื่นๆประกอบด้วย พร้อมคลิปเสียงเด็ด หากไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องร้องศาลให้มีคำสั่งยกเลิกมูลนิธิดังกล่าว ทั้งนี้มีรองอธิบดีกรมการปกครอง นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวแทน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ซ้อลักษณ์ กล่าวว่า ต้นแห่งความไม่ชอบมาพากลของประธาน วันนี้ตนได้ข้อมูลมาจากผู้เสียหายอีกท่านหนึ่ง
ที่เริ่ม มูลนิธิด้วยกัน ท่านได้บอกว่าจะโอนเงินให้ในช่วงวันเกิดหรืองานต่างๆ เพื่อซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายมูลนิธิ แต่เท่าที่ตนดูในไลฟ์สด ของประธานท่านนี้ก็ได้พูดกล่าวโจมตีผู้เสียหายคนนี้ วันนี้ ตนขอออกมาเปิดเผยแชทของผู้เสียหายคนนี้ตั้งแต่ประธานคนนี้อยู่ มูลนิธิที่เก่าจนไปถึงมูลนิธิที่จัดตั้งใหม่ ซึ่งระหว่างนี้ ตนเอง เคยได้ยินชื่อของผู้ชายคนนี้และพอท่านได้ทราบข่าวที่ตนออกจากมูลนิธินี้ ก็ ได้พูดคุยกันและทราบมาว่าผู้เสียหายคนนี้จะโอนเงินซัพพอร์ตให้ตลอด จะให้ตลอดไม่ว่าจะวันเกิดลูกวันเกิดเค้าเอง

นอกจากนี้ตนยังได้พูดคุยกับผู้เสียหายอีกหลายคนว่าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประธานคนดังกล่าวชอบอ้างว่าไม่เคยมีใครซัพพอร์ตในการลงพื้นที่ ต้นขอยกตัวอย่างว่า เวลาเค้าลงพื้นที่ก็จะได้รับเงินโอนจาก คนที่ดูไลฟ์สดและซัพพอร์ตซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวนั้นได้ถูกโอนเข้ายังบัญชีประธานคนดังกล่าวซึ่งไม่ใช่บัญชีของมูลนิธิ พร้อมทั้งโชว์สลิปดังกล่าวให้กับผู้สื่อข่าวดู


ในส่วนของมูลนิธินี้ตนไม่เคยเซ็นลายเซ็นอะไรในเอกสารจัดตั้งมูลนิธินี้ แต่เคยส่งเอกสารไป ตนยอมรับว่าเคยพูดคุยเรื่องการจัดตั้ง มูลนิธิดังกล่าวนี้ และในระหว่างการลงพื้นที่นั้นตนอยู่ ต่างจังหวัด ไม่สามารถลงพื้นที่ได้แต่เวลาท่านประธานคนดังกล่าวมาหาตน ตนก็จะโอนค่าค่าใช้จ่ายซัพพอร์ตให้ตลอดแต่กลับไปบอกกับคนอื่นว่า ตนไม่เคยซัพพอร์ต ตอนมองว่ามันไม่แฟร์กับบุคคลเหล่านั้นเลยที่ใช้ความน่าเชื่อถือการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีและใช้หากิน จึงเป็นที่มาของการยื่นหนังสือในวันนี้