‘ทนายตั้ม’ หอบหลักฐาน ร้องกกต. แฉ! ฮั้วการเลือก สว. มีนักการเมือง ป. อยู่เบื้องหลัง ค่าจ้างการลงคะแนน รอบละ 10,000 บาท
วันที่ 19 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ยื่นหนังสือถึง กกต.ให้ตรวจสอบการเลือก สว.ทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัด สมุทรสาคร หลังพบว่า การฮั้วเลือก สว.
นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยว่า การเลือกตั้ง สว. รอบจังหวัดเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของสมุทรสาคร แต่กว่าจะผ่านรอบจังหวัดมาได้ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพบว่ามีผู้สมัครจัดตั้งจากพรรคการเมือง ที่มีโพยหมายเลขที่จะต้องเลือก จึงไม่สามารถขอคะแนนได้

โดยรูปแบบการฮั้วนั้น มีนักการเมืองตัวย่อ ป. ในจังหวัดสมุทรสาคร พรรคการเมืองที่ชอบยุ่งเกี่ยวกับ ยาเสพติด เป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการสมัคร และมีค่าจ้างทั้งในรอบอำเภอและรอบจังหวัด ก่อนจะลงคะแนน 5,000 บาท และจะได้อีก 5,000 บาท เมื่อมีการลงคะแนนแล้ว รวมรอบละ 10,000 บาท ซึ่งในการเลือกระดับประเทศ เชื่อว่าจะได้ค่าจ้างเยอะมาก เพราะความสำคัญเริ่มมากขึ้น และเท่าที่ทราบขณะนี้ค่าตัวก็เพิ่มขึ้นในระดับประเทศ ค่าใช้จ่ายที่จะมาก็เยอะขึ้น ซึ่งถ้าจังหวัดไหนมีข้อมูลก็สามารถส่งมาได้ที่กกต.อย่างในจังหวัดนครราชสีมาก็มีการส่งข้อมูลมาให้กับตน

บางช่วงของการให้สัมภาษณ์ นายษิทรา ยังนำหลักฐานบางส่วนเป็นโพยที่พบว่า ผู้สมัคร สว. ที่ผ่านคัดรอบในระดับจังหวัดมาแสดงให้ดู โดยโพยดังกล่าว จะมีการระบุหมายเลขผู้สมัคร ที่กลุ่มจัดตั้งจ้างให้มาโหวตตามบุคคลที่มีการจัดวางไว้
นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ยังยืนยันว่า การมายื่นหนังสือ กกต. ในวันนี้ไม่ใช่เพราะกลัวว่า จะแพ้การเลือกตั้ง สว.ในระดับประเทศ เพราะตัวเองได้เปรียบ มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่อยากมาเรียกร้องให้ผู้สมัครน้ำดี เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่ม สว.จัดตั้ง ชนะการเลือกตั้งในระดับประเทศ พร้อมทิ้งท้ายด้วยการโชว์ไอดีไลน์ของตัวเอง เชิญชวนให้ผู้สมัคร สว. ที่เข้ารอบระดับประเทศ ได้เข้ากลุ่มเพื่อแนะนำตัวด้วย ให้แอดไลน์มาที่ @Sittra เพื่อที่จะได้นัดพบกัน และมั่นใจว่าการรวมตัวไม่ผิดกฎหมายเพราะเราไม่ได้ไปจ้างมาหรือจัดเลี้ยง แต่เป็นการรวมตัวเพื่อพูดคุย เพื่อที่จะได้รู้ถึงประวัติของแต่ละคน

“วันนี้ผมไม่ได้ขอคะแนนอะไร แต่อยากช่วยหลายๆคนที่เป็นคนเก่ง คนดี ที่ไม่ได้สื่อรู้จัก ไม่ได้มีคนรู้จัก ผมอยากจะชนะกับกลุ่มจัดตั้ง ผมหมั่นไส้ตั้งแต่ที่สมุทรสาครแล้ว อยากจะไปถอนยันราก จึงมาร้องเพราะคนที่ทำแบบนี้ จ้างคนมาลงสมัครมันมีโทษจำคุก 10 ปี และผมมาร้องก็ไม่ใช่เพราะผมกลัวจะแพ้ในการเลือกสว.รอบประเทศ แต่ข้อเท็จจริงผมได้เปรียบกว่าคนอื่น
เนื่องจากมีคนรู้จักอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องทำให้คนมาเจอกันเลย เพราะถ้ามาเจอโอกาสที่จะเลือกผมก็น้อย ถ้าผมเห็นแก่ตัวสู้ทำให้เขาไม่รู้จักกัน รู้จักผมคนเดียวพอ ไม่ดีกว่าหรือ แต่อันนี้ไม่ใช่ผมต้องการทำให้เฉพาะกลุ่มผมกลุ่มเดียว แต่ต้องการทำทุกกลุ่ม อย่างที่สมุทรสาคร ผมลงกับเพื่อนสามารถเข้ารอบกันมาได้ 5 กลุ่ม ถ้าเราไม่รวมพลังกันเราจะแพ้จัดตั้ง เดี๋ยวถึงเวลาจะบอกว่าต้องทำอย่างไร” นายษิทรา กล่าว