ทนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีร้อนที่ พรรคเพื่อไทยมีมติไม่ร่วมลงชื่อแก้ไขรับธรรมนูญมาตรา 272 ตามที่พรรคก้าวไกลขอความร่วมมือ เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม โดยผลสรุปออกมาว่า กว่า 99.99% ของส.ส. พรรคเพื่อไทย โหวตไม่เห็นชอบ โดยอ้างว่าจะผลักดันให้แก้ไข มาตรา 256 และผลักดันให้มีการจัดตั้งสสร. แทน
เดือดหนัก! ประชาชนปลดแอก ลั่น เพื่อไทย เพื่อใคร? ทำไมไม่ปิดสวิทช์ ส.ว.
ส.ว.สมชายแนะอย่า แก้รัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับตามกระแสม็อบ หวั่นนำไปสู่ความขัดแย้ง และสงครามกลางเมือง
โดยทนายอานนนท์ระบุว่า วิธีการของเพื่อไทยคือการยืดเวลาให้เผด็จการอย่างชัดเจน ระหว่างที่สภาแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจซื้อเวลาเป็นปีหรือกว่านั่น สุดท้ายรัฐธรรมนูญก็อาจไม่ได้แก้ เตะถ่วงกันไป สว มันก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น ประยุทธ์อยู่ครบเทอม ม็อบติดคุกติดตารางไป ประยุทธ์ครบ 4 ปี สว ลากตั้ง 250 คนก็กลับมาโหวตประยุทธ์อีก
วัฒนา เมืองสุข โต้ คนประณาม พรรคเพื่อไทยไม่สู้ แก้ไขรัฐธรรมนูญ
วิธีการของก้าวไกล คือ ตัดอำนาจของ สว.250 คน ก่อนเลย เขี่ย สว 250 คนออกจากสมการการเมืองเสีย ถ้าประยุทธ์ยุบสภา การเลือกนายกก็จะแค่อำนาจของ สส โหวต โอกาสที่ฝ่ายเราจะเป็นรัฐบาลย่อมเป็นไปได้สูง การแก้รัฐธรรมนูญก็ง่ายขึ้น
ถามว่าแล้วจุดอ่อนของก้าวไกลคืออะไร จุดอ่อนคือถ้าจะตัด สว ออกภายในปีนี้ เสียงที่มีน้อยและ สว 250 คน จะไม่ยอมถอย คือ หน้าด้านอยู่ต่อ (มึงจะทำไม)
แต่จุดแข็งของข้อเสนอก้าวไกลคือ สอดรับกับการชุมนุมของประชาชนทั่วไปเทศ
เดิม ถ้าไม่มีการชุมนุมหรือการลุกฮือของคน อย่าหวังเลยว่ารัฐบาลหรือ สว จะอ่อนลงขนาดนี้ ตอนนี้การชุมนุมคือตัวแปรที่สำคัญของสมการ
สส ท่านจงเสนอตามที่เราเรียกร้อง ส่วนตีนที่จะไปกระทืบ สว. ให้เป็นตีนของพี่น้องประชาชนเอง
ผมยืนยันว่า ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองที่ด่าได้ และจงด่าผู้แทนของพวกเราเพื่อให้มันอยู่ในร่องในรอย