อนุทิน รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข เผยเหตุผลสั่งเพิ่มยา ฟาวิพิราเวียร์ พร้อมโต้กระแสยารักษาโควิด-19 ไม่ได้ขาดแคลน
ตามที่ก่อนหน้านี้ จากเดิมที่ผู้ขึ้นทะเบียนสามารถจำหน่าย ยารักษาโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนได้เท่านั้น ก่อนที่ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะออกประกาศเพิ่มเติมอนุญาตให้กระจาย ยารักษาโควิด-19 ไปคลินิกเวชกรรมได้ โดยคลินิกเวชกรรมสามารถจัดหายาได้เองจากบริษัทเอกชนที่นำเข้าและขึ้นทะเบียนกับ อย. แล้ว

โดย การรักษาโรคโควิด-19 มีการใช้ยาที่เกี่ยวข้องหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือกลุ่มยาต้านไวรัส ซึ่งปัจจุบันได้มีการขึ้นทะเบียนกับ อย. จำนวนหลายทะเบียน เกือบทั้งหมดเป็นบริษัทเอกชน ได้แก่ยา ฟาวิพิราเวียร์ Favipiravir 3 ทะเบียน , ยาเรมเดซีเวียร์ Remdesivir 5 ทะเบียน , ยาแพกซ์โลวิด Paxlovid 1 ทะเบียน, ยาโมลนูพิราเวียร์ Molnupiravir 2 ทะเบียน และ มียาที่นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรมเพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาโต้กระแสการขาดแคลนยารักษาโควิด-19 ประเภทยา ฟาวิพิราเวียร์ พร้อมยืนยันว่ายา ฟาวิพิราเวียร์ และยา โมลนูพิราเวียร์ มีการสั่งเข้ามาจากองค์การเภสัชกรรม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยา ฟาวิพิราเวียร์ นั้นมีความจำเป็นอย่างมากในช่วงนี้ที่ต้องสั่งเพิ่ม แม้จะมียา โมลนูพิราเวียร์
เนื่องจากสาเหตุที่ต้องสั่ง ฟาวิพิราเวียร์ มาเพิ่มนั้นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอม และสามารถรักษาในเด็กได้ ขณะที่ยา โมลนูพิราเวียร์ จะสามารถใช้ได้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีเพียงพอ โดยคณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระยะเวลาดำเนินงาน 3 เดือน (ก.ค. -ก.ย. 65) ในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ (ของใหม่)
ได้แก่ Favipiravia/Molnupiravia เฉลี่ย 27 ล้านเม็ด/เดือน และ Remdesivir จำนวน 57,000 vial/เดือน รวมทั้งเป็นการแบ่งค้างชำระสำหรับ Favipiravia/Molnupiravia 165 ล้านเม็ด และค่าชุดตรวจ ATK จำนวน 1 ล้านชุด อีกด้วย เพื่อเสริมความมั่นคงทางสาธารณสุข เพิ่มความมั่นใจในประสิทธิภาพการรักษาโควิด-19 ให้กับประชาชน
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY