จอมขวัญ — จากกรณีที่ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กับน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎรได้ไปดีเบทในรายการถามตรงๆกับจอมขวัญ (ชมคลิปรายการ) เมื่อช่วงคืนวานนี้ (27 พ.ย.63) ในประเด็น พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 2561 ซึ่งการดีเบตดังกล่าวต่างเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์ในหลายประเด็น ทั้งเรื่องหัวข้อที่นำมาดีเบท ไปจนถึงการทำหน้าที่พิธีกรของจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ผู้ดำเนินรายการ ถามตรงๆกับจอมขวัญ
เปิดประวัติความเป็นกลางรายการ ถามตรงๆกับ จอมขวัญ หลังโลกออนไลน์ตั้งคำถาม
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์เฟสบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวว่า
ผมดูรายการ “ถามตรงๆ กับจอมขวัญ” เมื่อคืนนี้แล้ว เหมือนเอามวยคนละรุ่นมาจับคู่ต่อยกัน
รุ่นเฮฟวี่เวท ต่อยกับ รุ่นไลท์เวท ยังไม่ต้องขึ้นชกก็รู้แล้วว่า “มวยผิดรุ่น”
การจับคู่ถกเถียงต่อสาธารณะเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่คิดแต่จะเอาเรทติ้งจากคนดังมาออกรายการเท่านั้น
เที่ยวก่อน เอาน้องมายด์มาคุยกับคุณปารีณาก็ไม่ได้ครับ เพราะ เป็นระดับ ส.ส. จึงควรเอา ส.ส. ก้าวไกล อย่างคุณรังสิมันต์ โรม มาจับคู่กันถึงจะเหมาะสม
อย่างกรณีเมื่อคืน ก็ควรเอา ผศ.ดร.อานนท์ ไปจับคู่คุยกับ อ.ปิยบุตร
ระดับอาจารย์มาคุยกับอาจารย์ คนดูจะได้มันส์ และได้สาระทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่เอาระดับอาจารย์มาคุยกับระดับนักศึกษา องค์ความรู้ไม่ได้ทัดเทียมกัน จึงเท่ากับไม่มีประโยชน์ใดๆ ได้แต่สงสารอีกฝั่ง เพราะมันเหลื่อมล้ำด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิ และประสบการณ์
หากเอาคู่ที่พอฟัดพอเหวี่ยงมาชนกัน ได้ความรู้ และให้คนดูเขาตัดสินใจว่า เหตุผลใครฟังขึ้นกว่ากัน
แต่เมื่อคืนเขาเรียกว่า “มวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์” และกลายเป็นคุณจอมขวัญเอง แทนที่จะเป็นกรรมการกลับต้องเป็นฝ่ายโต้ตอบแทนน้องรุ้ง
ดูแล้วเหมือน “ถามเอียงๆ กับจอมขวัญ” เสียมากกว่า เพราะถามตรงๆ ไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่แหลมคมอย่างเรื่องนี้ ยิ่งถามยิ่งพัง
เอาเป็นว่า รักกันชอบกันถึงบอก อย่างน้อยผมก็ศิษย์เก่าไทยรัฐ ติเพื่อก่อ เพราะเป็นแฟนคุณจอมขวัญ
จอมขวัญ แจงปมดีเบต ถามตรงๆกับจอมขวัญ เผยแขกฝั่งผู้ชุมนุมจะถูกกรอบจำกัดการพูดมากกว่า
