คลัสเตอร์เรือนจำ —- เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ได้โพสต์แถลงการณ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีนักโทษติดเชื้อภายในเรือนจำ โดยระบุว่าราชทัณฑ์ ตรวจหาเชื้อโควิดในผู้ต้องขัง เชิงรุกแบบ 100% พบติดเชื้อกว่า 2,000 ราย เหตุจากนักโทษเข้าใหม่ โดยกรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรือนจำทัณฑสถานทุกแห่งมีมาตรการอย่างเคร่งครัดเพราะมีการควบคุม บับเบิ้ล แอนด์ซีล เช่น กรณีเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อก็สามารถดูแลรักษาจนหาย และไม่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในเรือนจำอีก
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโควิด19 มีการกระจายเป็นวงกว้างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเรือนจำทัณฑสถานที่ต้องรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และนำผู้ต้องขังออกศาลอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำได้ อย่างไรก็ดี ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการเชิงรุก คือแยกกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างน้อย 21 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด19 จำนวน 2 ครั้ง สำหรับผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อจะได้รับการรักษาโดยการให้ชา Favipiravia ทั้งในโรงพยาบาล สนามเรือนจำและโรงพยาบาลแม่ข่ายตามลักษณะอาการป่วยของแต่ละราย โดยกรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เรือนจำทัณฑสถานทุกแห่งมีมาตรการอย่างเคร่งครัดเพราะมีการควบคุม บับเบิ้ล แอนด์ซีล เช่นกรณีเรือนจำจ.นราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อก็สามารถดูแลรักษาจนหาย และไม่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในเรือนจำอีก
ด่วน! รุ้ง ปนัสยา ติดเชื้อโควิด19 พร้อมเปิดไทม์ไลน์หลังออกจากเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจเชิงรุก เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขัง 100% ซึ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด19ของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่พบการติดเชื้อได้ ทัณฑสถานหญิงกลาง มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,040 ราย และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,795 ราย ซึ่งทุกรายอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
หากในบางรายมีอาการหนักจะได้มีการย้ายออก เพื่อรับการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก เชื่อว่ามาตรฐานการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุขจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ไม่ขยายตัวไปสู่วงกว้างได้ เวลานี้มีแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และการให้ยารักษาและดูแลทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งมีการวางแผนเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังในคุกด้วย อยู่ระหว่างการรอจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด19เชิงรุกในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ซึ่งในส่วนของทัณฑสถานได้ตรวจคัดกรองเชื้อโควิด19 ด้วยวิธั RT-PCR ไปแล้วกว่า 17,000 ครั้ง ทำให้คัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้รวดเร็ว สามารถแยกผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงออกมากักตัวเพื่อสังเกตอาการได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอบคุณกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาดูแลและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี

ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์