'บิ๊กตู่' เข้าใจ 'ด้อมส้ม' ที่ชุมนุม แต่การเรียกร้องควรอยู่ภายใต้กฎหมาย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าใจความรู้สึก ด้อมส้ม ที่ออกมาเรียกร้อง แต่ทุกอย่างควรอยู่ภายใต้กฎหมาย

หลังจากการ โหวตนายกรัฐมนตรี รอบ 2 ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 66) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังของประชาชน เมื่อมติในรัฐสภา นั้นสรุปออกมาว่า ไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำเป็นรอบที่ 2 ได้ หน่ำซ้ำระหว่างการประชุมเมื่อวานนี้ มีรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญว่า ได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องตรวจสอบ หุ้นสื่อไอทีวี ของนายพิธา โดยมีผลพิจารณาว่า ให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

และเมื่อผลโหวตเสร็จสิ้น ประธานสภา ได้ปิดการประชุม เหล่ามวลชนก็ได้มีการนัดชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทันที โดยบรรยาการในการชุมนุมเมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีประชาชนจำนวนมากที่ปิดล้อม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไว้ จนเต็มพื้นที่เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และเรียกร้องไปยัง ส.ว. และ ส.ส. ที่ปิดประตูสู่รัฐบาลของพรรคก้าวไกล

ศรีสุวรรณ บุก! กกต. ยื่นสอบ ส.ส.ภูมิใจไทย ถือหุ้นITV เหมือน”พิธา”หรือไม่

อานนท์ จี้! เตือนสติ ‘เพื่อไทย’ ก่อนจะจับมือใคร ให้นึกถึงภาพก่อนหน้านี้

ปิยบุตร แนะ ‘วันนอร์’ ใช้อำนาจ หยิบข้อยกเว้น 41 มาใช้แก้เกม

รองโฆษก เผย บิ๊กตู่ห่วงใยประชาชนที่ออกมาชุมนุม

ล่าสุด วันนี้ 20 ก.ค. 66 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองด้วยความห่วงใยพร้อมให้กำลังใจประชาชน

ขอให้ทุกฝ่ายแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างเหมาะสมภายใต้กฎหมาย ยึดแนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. และจากผลการลงมติโหวต ตามข้อบังคับที่ 41 ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลต่อความรู้สึก สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนส่วนหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเข้าใจความรู้สึกประชาชนที่สนับสนุน แต่ขอให้แสดงความคิดเห็น รวมถึงแสดงออกอย่างเหมาะสมภายใต้กฎหมาย ไม่ต้องการให้ความเห็นต่างกลายเป็นความขัดแย้ง บานปลายส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย น.ส.รัชดากล่าว

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นการได้มาซึ่งหัวหน้าฝ่ายบริหาร ผ่านกระบวนการรัฐสภาทั้ง สส. และ สว. ที่อีกไม่นานก็คงจะได้ข้อยุติในการเลือกนายกรัฐมนตรี ทุกฝ่ายต่างทำงานเพี่อประเทศไทยเดินหน้าต่อในแนวทางประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ดังนั้น การแสดงความคิดเห็นและกิจกรรมทางการเมืองภาคประชาชน ต้องยึดแนวทางสันติภายใต้กฏหมาย ไม่สร้างสถานการณ์หรือใช้ความรุนแรง ทำลายบรรยากาศทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศที่กำลังเดินหน้าไปอย่างดี ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ เพี่อสร้างโอกาสการทำมาหากินให้พี่น้องคนไทยทุกคน” น.ส.รัชดา กล่าว